รอง ผบก.น.1 แถลงผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดเรือนจำบางขวาง พร้อมของกลางเพียบ!
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 1(บก.น.1) ภายในกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รอง ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผกก.สส.บก.น.1 ร่วมแถลงผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดเรือนจำบางขวาง คือ นายดนัยวัฒน์ หรืออ๋อง เชาววิชญ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ซอยริมคลองมอญ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม. กับ น.ส.แสงดาว หรือจุ๋ม มุขศรี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 4 ต.บ้ายแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น สองสามีภรรยา พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 13 ถุง น้ำหนักรวม 15 กรัม ยาบ้า 5,800 เม็ด ยาอี 200 เม็ด ยาเคชนิดน้ำ 20 ขวด ยาไฟว์ไฟว์ 6 แผง เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สร้อยคอทองคำ 2 เส้น สร้อยข้อมือ 2 เส้น แหวนทองคำ 2 วง พระเลี่ยมทอง 2 องค์ สมุดบัญชี 1 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 7 ใบ รถเก๋งโตโยต้า ยาริส หมายเลขทะเบียน 1 กจ 9738 กรุงเทพมหานคร และจักรยานยนต์ยามาฮ่า อีก 1 คัน โดยจับกุมได้ที่อาคารลุมพินีเพลส ถนนพระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.
พ.ต.อ.พจน์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด บก.น.1 ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายดนัยวัฒน์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้เสพย่านรัชดาฯ ห้วยขวาง จึงติดต่อล่อซื้อยาไอซ์จากนายดนัยวัฒน์เป็นงิน 4,000 บาท โดยนัดส่งมอบยากันที่ชั้นล่างของอาคารที่จับกุม ขณะส่งมอบยาเสพติดชุดจับกุมได้แสดงตัวขอตรวจค้นพบยาไอซ์ 2 ถุงอยู่ในกระเป๋ากางเกงนายดนัยวัฒน์ จึงขยายผลไปตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ 101/323 อาคารดี อาคารลุมพินีเพลส พบ น.ส.แสงดาวอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว พร้อมยาเสพติดซุกซ่อนและของกลางอีกหลายรายการ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายดนัยวัฒน์ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันค้ายาเสพติดมานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยจะโทรศัพท์สั่งซื้อยาเสพติดกับนายอั๋น ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเป็นเครือข่ายของนายบอย นักโทษในเรือนจำบางขวาง และจะนำยามาพักไว้ที่ห้องดังกล่าว ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อยาเสพติดครั้งละ 4,000-6,000 เม็ด และยาไอซ์ครั้งละ 100 กรัม ซึ่งจะมีคนประสานและมาส่งยาเสพติดให้กับตนอีกที ก่อนทยอยจำหน่ายให้กับลูกค้าต่อไป โดยให้ภรรยาเป็นคนเฝ้ายาเสพติดทั้งหมด สาเหตุที่ต้องขายยาเสพติดเพราะไม่มีงานทำ ทั้งนี้ เคยถูกจับมา 1 ครั้ง ที่ สน.บางกอกใหญ่ คดีค้ายาเสพติดเมื่อปี 2545 จำคุกมาแล้วกว่า 6 ปี ก่อนออกมาก่อเหตุอีกครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
