“พงศพัศ” แถลง ป.ป.ส.รวบสองผัวเมียนักค้ายาบ้ารายใหญ่ภาคเหนือ พร้อมของกลางยาบ้า 280,000 เม็ด มูลค่ากว่า 8.4 ล้านบาท
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ป.ป.ส. ดินแดง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่จากชายแดนภาคเหนือและภาคใต้ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย นายเสรี หรือเส ชุมพงษ์ อายุ 39 ปี และน.ส.ฟารีดา หรือดา มาตรอารี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/38 หมู่ที่ 7 ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมของกลางยาบ้า 280,000 เม็ด มูลค่ากว่า 8.4 ล้านบาท สามารถจับกุมได้บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางธัญบุรี และขยายผลไปยังห้องพักเลขที่ 281/328 ชั้น 8 อาคารบี บางกะปิคอนโดทาวน์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ได้ร่วมกับทาง ศปก.ทบ., ศรภ. และ ศพส.ชน.ชร. สืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่จัดหายาเสพติดจากภาคเหนือลำเลียงเข้าสู่แหล่งแพร่ระบาดในชุมชนตอนในของประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญในการปราบปรามเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่จะเข้าสู่ชุมชน กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่านายเสรี ชุมพงษ์ และภรรยา ชื่อ น.ส.ฟารีดา มาตรอารี มีพฤติการณ์เป็นนักค้ายาเสพติด ที่ผันตนเองจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้ารายย่อย และกลายเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยจัดหายาบ้าจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ผ่าน จ.เชียงราย ให้แก่ลูกค้า เพื่อส่งจำหน่ายในแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 55 ชุดสืบสวนทราบว่า นายเสรี และน.ส.ฟารีดา จะเดินทางไปรับยาเสพติดจากผู้ร่วมงานในพื้นที่ จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเฝ้าสังเกตการณ์ริมถนนสายเอเชียทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาพระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.ได้มีรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน ศศ 7368 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายเสรีเป็นคนขับ และน.ส.ฟารีดานั่งมาด้วย มุ่งหน้าไปตามถนนสายเอเชียเข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงด่านเก็บค่าผ่านทางธัญบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 280,000 เม็ด บรรจุภายในกระเป๋าลายมิกกี้เม้าส์ 3 ใบ วางอยู่ในกระบะท้ายรถยนต์คันดังกล่าว จึงสอบสวนขยายผลนำตัวไปตรวจค้นยังห้องพักบางกะปิคอนโดทาวน์ย่านคลองจั่น เพื่อตรวจยึดเอกสารและบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวนหนึ่งซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท และควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไปรับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือแล้วจะนำมาพักไว้ตามบ้านร้างที่จังหวัดอ่างทอง เพื่อรอลำเลียงขนเข้ามากระจายขายในชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะเป็นย่านร่มเกล้า และฝั่งธนบุรี โดยทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปีเศษ ได้ค่าจ้างขนจากทางภาคเหนือลงมาเที่ยวละประมาณ 7-8 แสนบาท แล้วนำมาพักไว้ที่ จ.อ่างทอง สำหรับค่าจ้างขนส่งจากที่พักยาก่อนจะนำเข้ากรุงเทพฯ เที่ยวละประมาณ 2 แสนบาท นำมาขายต่อพ่อค้ารายย่อย จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่ามีบ้านและคอนโดฯ อยู่ที่ภาคใต้อีก มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 50 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม และทราบตัวผู้จัดหาทางภาคเหนืออยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศได้กล่าวถึงโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในปีนี้ว่าจะมีความพิเศษกว่าทุกปี โดยจะมีการแจกจ่ายกล้องวงจรปิดให้กับ 88 สน.ทั่วกรุงเทพฯ และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต3G เพื่อส่งภาพดิจิตอลมายัง สน.ท้องที่ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะออกตรวจตราลาดตระเวนตามตรอกซอกซอยและมุมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทั้งนี้ หากประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ขอให้เข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดูแลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าใน กทม.จะมีผู้เข้าร่วมโครงการ 3,000-4,000 หลัง และในวันเสาร์ที่ 22 ธค. 55 นี้ ตนจะนำร่องเปิดโครงการบ้าน 2 หลังแรกที่ สน.โชคชัยเป็นที่แรกอีกด้วย
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ป.ป.ส. ดินแดง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่จากชายแดนภาคเหนือและภาคใต้ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย นายเสรี หรือเส ชุมพงษ์ อายุ 39 ปี และน.ส.ฟารีดา หรือดา มาตรอารี อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/38 หมู่ที่ 7 ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมของกลางยาบ้า 280,000 เม็ด มูลค่ากว่า 8.4 ล้านบาท สามารถจับกุมได้บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางธัญบุรี และขยายผลไปยังห้องพักเลขที่ 281/328 ชั้น 8 อาคารบี บางกะปิคอนโดทาวน์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ได้ร่วมกับทาง ศปก.ทบ., ศรภ. และ ศพส.ชน.ชร. สืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่จัดหายาเสพติดจากภาคเหนือลำเลียงเข้าสู่แหล่งแพร่ระบาดในชุมชนตอนในของประเทศ ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญในการปราบปรามเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่จะเข้าสู่ชุมชน กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่านายเสรี ชุมพงษ์ และภรรยา ชื่อ น.ส.ฟารีดา มาตรอารี มีพฤติการณ์เป็นนักค้ายาเสพติด ที่ผันตนเองจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้ารายย่อย และกลายเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยจัดหายาบ้าจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ผ่าน จ.เชียงราย ให้แก่ลูกค้า เพื่อส่งจำหน่ายในแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 55 ชุดสืบสวนทราบว่า นายเสรี และน.ส.ฟารีดา จะเดินทางไปรับยาเสพติดจากผู้ร่วมงานในพื้นที่ จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเฝ้าสังเกตการณ์ริมถนนสายเอเชียทั้งขาเข้าและขาออก บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาพระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.ได้มีรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน ศศ 7368 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายเสรีเป็นคนขับ และน.ส.ฟารีดานั่งมาด้วย มุ่งหน้าไปตามถนนสายเอเชียเข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงด่านเก็บค่าผ่านทางธัญบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 280,000 เม็ด บรรจุภายในกระเป๋าลายมิกกี้เม้าส์ 3 ใบ วางอยู่ในกระบะท้ายรถยนต์คันดังกล่าว จึงสอบสวนขยายผลนำตัวไปตรวจค้นยังห้องพักบางกะปิคอนโดทาวน์ย่านคลองจั่น เพื่อตรวจยึดเอกสารและบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวนหนึ่งซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท และควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไปรับยาบ้ามาจากทางภาคเหนือแล้วจะนำมาพักไว้ตามบ้านร้างที่จังหวัดอ่างทอง เพื่อรอลำเลียงขนเข้ามากระจายขายในชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะเป็นย่านร่มเกล้า และฝั่งธนบุรี โดยทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปีเศษ ได้ค่าจ้างขนจากทางภาคเหนือลงมาเที่ยวละประมาณ 7-8 แสนบาท แล้วนำมาพักไว้ที่ จ.อ่างทอง สำหรับค่าจ้างขนส่งจากที่พักยาก่อนจะนำเข้ากรุงเทพฯ เที่ยวละประมาณ 2 แสนบาท นำมาขายต่อพ่อค้ารายย่อย จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่ามีบ้านและคอนโดฯ อยู่ที่ภาคใต้อีก มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 50 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม และทราบตัวผู้จัดหาทางภาคเหนืออยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศได้กล่าวถึงโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในปีนี้ว่าจะมีความพิเศษกว่าทุกปี โดยจะมีการแจกจ่ายกล้องวงจรปิดให้กับ 88 สน.ทั่วกรุงเทพฯ และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต3G เพื่อส่งภาพดิจิตอลมายัง สน.ท้องที่ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะออกตรวจตราลาดตระเวนตามตรอกซอกซอยและมุมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทั้งนี้ หากประชาชนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ขอให้เข้าร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดูแลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าใน กทม.จะมีผู้เข้าร่วมโครงการ 3,000-4,000 หลัง และในวันเสาร์ที่ 22 ธค. 55 นี้ ตนจะนำร่องเปิดโครงการบ้าน 2 หลังแรกที่ สน.โชคชัยเป็นที่แรกอีกด้วย