ศาลจำคุก 2 ปี 3 เดือน หนุ่มเมืองกรุงเก่าขโมยแบตเตอรี่รถกู้ภัยอเนกประสงค์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมให้ชดใช้เงินคืน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (7 ธ.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีลักทรัพย์ อ.4588/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายชาญชัย เขียวลออ อายุ 33ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.3 ต.อมฤต อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการโดยใช้ยานพาหนะ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2553 เวลากลางวัน จำเลยได้ขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าไปในกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สังกัดกระทรวงมหาดไทย ถ.อู่ทองนอก แขวงและเขตดุสิต กทม. แล้วลักเอาแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อยัวซ่า 2 ลูก ราคาประมาณ 6,291 บาทที่ใช้กับรถยนต์กู้ภัยอเนกประสงค์ ทะเบียน 98-89 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดเก็บรักษาในสถานที่ราชการไปโดยทุจริต ก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมจำเลยได้ ส่งพนักงานสอบสวน สน.สามเสน แจ้งข้อหาดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) พิพากษาจำคุก 3 ปี และให้เพิ่มโทษจำคุกอีก 1 ปี 6 เดือน ที่จำเลยเคยถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์ แต่จำเลยกลับกระทำผิดซ้ำในข้อหาเดิมอีกภายใน 3 ปี รวมจำคุกจำเลย 4 ปี 6 เดือน ทั้งนี้ คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี 3 เดือน และให้ชดใช้เงินจำนวน 6,291 บาทคืนแก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วย
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (7 ธ.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีลักทรัพย์ อ.4588/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายชาญชัย เขียวลออ อายุ 33ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.3 ต.อมฤต อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการโดยใช้ยานพาหนะ
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2553 เวลากลางวัน จำเลยได้ขี่จักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าไปในกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สังกัดกระทรวงมหาดไทย ถ.อู่ทองนอก แขวงและเขตดุสิต กทม. แล้วลักเอาแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อยัวซ่า 2 ลูก ราคาประมาณ 6,291 บาทที่ใช้กับรถยนต์กู้ภัยอเนกประสงค์ ทะเบียน 98-89 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดเก็บรักษาในสถานที่ราชการไปโดยทุจริต ก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมจำเลยได้ ส่งพนักงานสอบสวน สน.สามเสน แจ้งข้อหาดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) พิพากษาจำคุก 3 ปี และให้เพิ่มโทษจำคุกอีก 1 ปี 6 เดือน ที่จำเลยเคยถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกฐานลักทรัพย์ แต่จำเลยกลับกระทำผิดซ้ำในข้อหาเดิมอีกภายใน 3 ปี รวมจำคุกจำเลย 4 ปี 6 เดือน ทั้งนี้ คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 2 ปี 3 เดือน และให้ชดใช้เงินจำนวน 6,291 บาทคืนแก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยด้วย
