ตำรวจสอบปากคำม็อบ อพส.127 คนที่ถูกควบคุมตัวขณะฝ่าแนวกั้นในการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย. ทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ ยันมาใช้สิทธิมาชุมนุมตามกฎหมาย
วันนี้ (28 พ.ย.) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกรณีเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการสรุปสำนวนผู้ต้องหาที่ฝ่าฝืนประกาศเข้ามายังพื้นที่หวงห้าม ควบคู่ไปกับการเก็บข้อมูลรายละเอียดระหว่างที่มีแกนนำมีการปราศรัย โดยต้องดูเนื้อหาว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดอื่นอีกหรือไม่ ใครเป็นผู้ร่วมกระทำบ้าง โดยยังอยู่ระหว่างการสอบพยานบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชน สื่อมวลชน เพื่อดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นกำหนดระยะที่วางไว้ภายใน 30 วัน
พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวอีกว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหา 127 รายทั้งหมดแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครรับสารภาพแต่อย่างใด มีเพียงแต่อ้างว่าเข้ามาชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพเท่านั้น รวมทั้งได้ให้ทาง บช.น.รับผิดชอบในการสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ส่วนการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานจากสื่อมวลนั้น ได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามไปดำเนินการตรวจสอบ และให้ทาง บช.ภ.1 เข้ามาดูรายละเอียดกรณีการของแจ้งความร้องทุกข์ของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย และพรรคพวก ซึ่งทาง บช.น.จะเป็นผู้รวบรวมหลักฐานเอาไว้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องจะนำหลักฐานที่รวบรวมได้มาร่วมกันประชุมเพื่อพิจารณาในวันที่ 30 พ.ย. เวลา 13.00 น.ต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่เข้าข่ายฝ่าฝืนแบ่งออกเป็น 3 ชุด โดยชุดแรก จำนวน 97 ราย บริเวณที่เกิดเหตุสะพานมัฆวานรังสรรค์ ชุดที่ 2 จำนวน 16 ราย บริเวณแยกสวนมิสกวันช่วงเช้า และชุดที่ 3 จำนวน 14 ราย พื้นที่เกิดเหตุบริเวณแยกสวนมิสกวันช่วงบ่าย ซึ่งได้สอบปากคำเสร็จสิ้นไปหมดแล้ว รอรวบรวมพยานหลักฐานและประชุมร่วมกันเพื่อหารืออีกครั้ง เพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป