บช.น.จัดอบรมภาษาอังกฤษเพิ่มความรู้ให้ตำรวจจราจร

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. ร่วมกับ ดร.บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ ร่วมกันลงนามเปิดโครงการฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของตำรวจจราจร ในสังกัด บก.จร. และบก.น.1-9 ตั้งแต่ระดับ รองผบก.-รอง สว. จนถึงชั้นประทวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหญิง จำนวน 3,858 นาย โดยใช้การเรียนแบบออนไลน์ หรือ e-Learning

วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. ร่วมกับ ดร.บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ ร่วมกันลงนามเปิดโครงการฝึกอบรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของตำรวจจราจร ในสังกัด บก.จร. และ บก.น.1-9 ตั้งแต่ระดับรอง ผบก.-รอง สว. จนถึงชั้นประทวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหญิง จำนวน 3,858 นาย โดยใช้การเรียนแบบออนไลน์ หรือ e-Learning มีคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จำนวน 6 คน หมุนเวียนไปยัง บก.จร และบก.น.1-9 เพื่อประชุมเชิงปฏิบัติการ 1 เดือนต่อครั้ง รวมทั้งหมด 12 ครั้งๆ ละ 3 ชม.เป็นเวลา 1 ปี

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรตำรวจให้เป็นตำรวจสากลที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษทักทาย ช่วยเหลือผู้เสียหาย หรือตอบข้อซักถามของชาวต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนแนะนำเส้นทางรวมทั้งการจับกุมชาวต่างชาติที่ก่อคดีอาญา

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีการเรียนตลอดทั้งปี และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่เข้าโครงการก็สามารถเลือกเรียนเวลาไหนก็ได้ หลังจากที่มีการเรียนตามบทเรียนแต่ละบทแล้ว ทีมอาจารย์ของโครงการจะเดินทางออกไปตามโรงพักเพื่อสุ่มทดสอบผลการเรียน นอกจากนี้ หากสายงานปราบปรามและงานสืบสวน จะเข้าร่วมอบรมเรียนรู้เพิ่มก็ได้เพราะโครงการมีการจัดทำเป็นรูปธรรมแล้ว แต่การเข้ามาเรียนก็ขอให้เป็นไปตามระบบไม่ใช่มาเรียนเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะหลังจากการเรียนแล้วก็จะมีการประเมินผลการเรียนด้วย