ตำรวจ ภ.7 นำตัว “กะลา” คนงานพม่ามาชี้จุดที่เคยมาทำงานในบ้านที่พบรถยนต์สองผัวเมียที่หายตัวไปจอดทิ้งใน จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 7 ได้นำตัวนายกะลา คนงานชาวพม่าคนงานในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ซึ่งถูกกันตัวเป็นพยานในคดีที่นายสามารถ นุ่มจุ้ย และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง หลังออกไปตัดต้นกระถินภายในไร่แม่ยายและหายตัวไปนานกว่า 3 ปี จนกระทั่งมาพบรถจอดทิ้งอยู่ในบ้านเลขที่ 125/53 และ125/2 ซ.กรุงเทพนนท์ 1 ถ.กรุงเทพนนท์ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านแม่ของ นพ.สุพัฒน์นั้น
ในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายกะลามาชี้จุดที่ นพ.สุพัฒน์ได้พาตัวนายกะลามาตัดหญ้าที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมทั้งนำไม้มะค่าจากไร่จำนวน 6 แผ่นมาทำการซ่อมแซมหลังคาบ้านที่เกิดเหตุและยังคงเหลืออยู่ในบ้านอีก 3 แผ่น ซึ่งนายกะลาได้ชี้จุดต่างๆ หลายจุดที่ตนเคยมาพักอาศัยและมาทำงานนานกว่า 1 ชม. โดยนายกะลากล่าวว่าตนเองเคยมาที่บ้านหลังนี้พร้อมกับ น.ส.วิระสา จันทรบัญชร ภรรยาของ นพ.สุพัฒน์หลายครั้งแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการตัดหญ้าที่สนามหญ้าหน้าบ้าน โดยแต่ละครั้งที่มาก็เห็นรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ที่โรงจอดรถตั่งแต่แรกแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดดังกล่าวนายหนึ่งเปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการพาตัวนายกะลามาชี้จุดต่างๆ ที่เคยทำงานในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับรูปคดี และจะเป็นการพิสูจน์ว่า นพ.สุพัฒน์มีความสัมพันธ์กับบ้านหลังดังกล่าวจริง ซึ่งเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้นำไม้มะค่าจำนวน 3 แผ่น และยางรถยนต์จำนวน 4 เส้นที่พบในบ้านเกิดเหตุกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง