“หรั่ง เทวรัตน์” จำเลยก่อการร้าย อดีตคนสนิท เสธ.แดง ให้การศาลขอสู้คดีค้าอาวุธสงคราม ศาลพิจารณาแล้วนัดสืบโจทก์ครั้งแรก 16 ก.ค.ปีหน้า
ที่ห้องพิจารณา 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (22 ต.ค.) ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีดำ อ.1223/2555 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อายุ 28 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อดีตคนสนิทของของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง หนึ่งในจำเลยคดีร่วมกันก่อการร้ายที่เสียชีวิตแล้ว เป็นจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายวัตถุระเบิดและอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนอนุญาตให้ไม่ได้
โดยคดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2553 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกได้มีและขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด หรือลูกระเบิด ซึ่งเป็นอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอนุญาตให้ไม่ได้ และเป็นยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 55, 78, พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 5, 7, 15 และ 42
ทั้งนี้ ศาลได้สอบคำให้การจำเลยโดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยแถลงให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี
ขณะที่อัยการโจทก์ได้แถลงต่อศาล ขอสืบนำพยานเข้าสืบจำนวน 28 ปาก ใช้เวลา 8 วัน ส่วนทนายจำเลยแถลง ขอนำสืบพยานเข้าสืบหักล้างจำนวน 8 ปาก ใช้เวลา 2 วัน
ศาลพิจารณาแล้วจึงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ในวันที่ 16 ก.ค. 2556 เวลา 09.00 น.
ที่ห้องพิจารณา 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (22 ต.ค.) ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีดำ อ.1223/2555 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อายุ 28 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อดีตคนสนิทของของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง หนึ่งในจำเลยคดีร่วมกันก่อการร้ายที่เสียชีวิตแล้ว เป็นจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายวัตถุระเบิดและอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนอนุญาตให้ไม่ได้
โดยคดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2553 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกได้มีและขายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด หรือลูกระเบิด ซึ่งเป็นอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอนุญาตให้ไม่ได้ และเป็นยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 7, 55, 78, พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มาตรา 4, 5, 7, 15 และ 42
ทั้งนี้ ศาลได้สอบคำให้การจำเลยโดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยแถลงให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดี
ขณะที่อัยการโจทก์ได้แถลงต่อศาล ขอสืบนำพยานเข้าสืบจำนวน 28 ปาก ใช้เวลา 8 วัน ส่วนทนายจำเลยแถลง ขอนำสืบพยานเข้าสืบหักล้างจำนวน 8 ปาก ใช้เวลา 2 วัน
ศาลพิจารณาแล้วจึงนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ในวันที่ 16 ก.ค. 2556 เวลา 09.00 น.
