“คำรณวิทย์” แถลงผลงานจับกุมผู้ต้องหาชาวพม่า ฆ่าชิงทรัพย์พร้อมของกลางกล้องถ่ายรูปดิจิตอล ยี่ห้อซัมซุง รุ่น ES73 จำนวน 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง สมุดเงินฝากออมทรัพย์ 2 เล่ม บัตรเอทีเอ็มและเอกสารต่างๆ ของผู้เสียชีวิต และอีกคดีติดตามจับผู้ต้องหาหนีคดี “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.7 พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.กก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล ผกก.สน.บางขุนนนท์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.7 และ สน.บางขุนนนท์ ร่วมแถลงผลจับกุม นายอาไซ อายุ 20 ปี สัญชาติพม่า อดีตทหารไทยใหญ่ ผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงทรัพย์ พร้อมของกลางกล้องถ่ายรูปดิจิตอล ยี่ห้อซัมซุง รุ่น ES73 จำนวน 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง สมุดเงินฝากออมทรัพย์ 2 เล่ม บัตรเอทีเอ็มและเอกสารต่างๆ ของผู้เสียชีวิต สามารถจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยประชาอุทิศ 67 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 ต.ค.2555 เวลา 08.30 น.ผู้ต้องหาได้เข้าไปชิงทรัพย์ นายณรงค์ แซ่ปง บริเวณที่พักคนงานไม่มีเลขที่ ถนนเลียบทางรถไฟ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย โดยใช้เหล็กชแลงตีศีรษะจนถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ พร้อมกับรื้อค้นทรัพย์สินของผู้ตายติดตัวไปด้วยหลายรายการ
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.7 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลแขวงตลิ่งชัน เลขที่ 643/2555 ลงวันที่ 18 ต.ค.2555 ได้ที่บริเวณปากซอยประชาอุทิศ 67 พร้อมกับของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2555 เวลาประมาณ 19.00 น.ตนได้ใช้เหล็กชแลง ตี นายณรงค์ จนเสียชีวิตพร้อมกับนำทรัพย์สินของผู้ตายไปจริง เพราะเคยเป็นคนงานอยู่ที่นี้มาก่อน และจะเข้าไปขโมยของแต่ผู้ตายมาเห็นเสียก่อน จึงลงมือก่อเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่ได้นั้นจะนำไปใช้จ่ายตามปกติ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีกคดี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.7 พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.กก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ตั้งวงษ์เจริญ ผกก.สน.ตลิ่งชัน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ร่วมแถลงผลจับกุม นายธรรมนูญ หรือ โอ๊ต ทองนาค ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 560/2555 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ได้ที่ จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 27 พ.ค.2555 กลุ่มคนร้าย 5 ราย ประกอบด้วย นายธนน แสงเขียว น.ส.พรทิพย์ จั่นทิพย์ ได้จ้างวาน นายกฤษดา มารศรี นายธรรมนูญ ทองนาค และ นายไพรเวทย์ หินกล้า ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืน .38 ยิงนายเกษม หอมระรื่น เสียชีวิต ภายในซอยแก้วเงินทอง 27 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.แล้วหลบหนีไป
พล.ต.ต.ชาญ กล่าวอีกว่า ต่อมา วันที่ 27 ส.ค.2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัว นายธนน ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 428/2555 ไว้ในเรือนจำคลองเปรม ในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้ใช้ บังคับ ขู่เข็ญ จ้างวาน หรือ ยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใดให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จากนั้น วันที่ 16 ต.ค.2555 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.7 ได้จับกุม นายกฤษดา มารศรี ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 430/2555 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ได้ที่ จ.สมุทรปราการ พร้อมกับรถยนต์มิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน พม 2308 กทม.ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ในการก่อเหตุ
“จนกระทั่งวานนี้ (18 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายธรรมนูญ ผู้ต้องหาอีกรายได้ที่ จ.สมุทรปราการ โดย นายธรรมนูญ ยอมรับว่า เป็นคนลงมือใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงนายเกษมจนเสียชีวิตบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ น.ส.พรทิพย์ และ นายไพรเวทย์ อีก 2 ผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการติดตามตัวอยู่” พล.ต.ต.ชาญ กล่าว
ส่วนสาเหตุเกิดจาก นายเกษม ผู้เสียชีวิตรับยาบ้ามาจากนายธนน ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำคลองเปรมในคดียาเสพติด แล้วนำไปจำหน่ายแต่ไม่ยอมจ่ายเงินคืน นายธนน และ น.ส.พรทิพย์ จึงได้สั่งการให้ นายกฤษดา นายธรรมนูญ และ นายไพรเวทย์ ร่วมกันจับตัว นายเกษม เพื่อจะเอายาบ้าและเงินคืน แต่ผู้ตายขัดขืนจึงถูกกลุ่มผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงถึงแก่ความตาย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
