xs
xsm
sm
md
lg

จับพระลูกวัดแสบตระเวนฉกเงินบริจาค 3 แสน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


สภ.ปากเกร็ด จับพระลูกวัดเชียงใหม่นั่งรถหรูทำทีมาติดต่อร่วมงานบุญวัดชลประทานรังสฤษฎ์ เผลอฉกเงินบริจาคเกือบ 3 แสน แถมย้อนรอยเตรียมกลับมาก่อเหตุซ้ำ สารภาพสิ้นจำนนต่อหลักฐานจากภาพวงจรปิด

วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ สภ.ปากเกร็ด นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.โสวัชร์ ไชยสงคราม รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.วิทิต จันทร์เอี่ยม สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายเจษฎาพันธ์ หรือบอย ละครศรี อายุ 21 อยู่บ้านเลขที่ 66/1 ม.3 ต.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นพระลูกวัดทรายมูลเมือง จ.เชียงใหม่ และนายทวิทย์ ยังเย็น อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 ม.1 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ คนขับรถ พร้อมด้วยของกลางรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 4049 กทม. โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิด

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 พ.ค. 55 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากพระวัดชลประทานรังสฤษฎ์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด ว่าได้มีคนร้ายแต่งกายเป็นพระภิกษุสงฆ์นั่งรถยนต์หรูเข้ามาติดต่อร่วมงานบุญที่ทางวัดจัดขึ้น ก่อนขอตัวเข้าห้องน้ำและแอบเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิพระครูปลัดสมชาย โดยคนร้ายได้เงินสดที่ญาติโยมนำมาทำบุญบริจาคไปเกือบ 3 แสนบาท ก่อนวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถยนต์เก๋งหรูที่สตาร์ทเครื่องรออยู่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในกุฏิ จนพบพฤติกรรมของคนร้ายอย่างชัดเจน จึงได้ขออนุมัติหมายจับตามภาพจากศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 217/2555 และวางแผนเฝ้าติดตามตัวคนร้าย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 55 ที่วัดกรมชลประทานรังสฤษฎ์ ได้จัดงานทำบุญฉลองสมโภชพระอารามหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ภายในงานได้พบรถยนต์เก๋งต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 4049 กทม.ขับเข้ามาจอดที่บริเวณกุฏิพระและอยู่ห่างจากที่ทางวัดจัดงานทำบุญขึ้น จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น ภายในรถพบนายเจษฎาพันธ์ หรือบอย ละครศรี แต่งกายเป็นพระภิกษุสงฆ์นั่งอยู่เบาะหลังคนขับ โดยมีนายทวิทย์ ยังเย็น เป็นคนขับ และมีรูปร่างหน้าตาตรงกับหมายจับจึงทำการจับกุมตัว

โดยนายเจษฎาพันธ์ หรือบอย ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับและเป็นผู้ลงมือเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิพระปลัดสมชายจริง โดยในครั้งนั้นได้เงินสดไปจำนวน 2.7 แสนบาท และในวันนี้ได้กลับมาเพื่อเตรียมจะก่อเหตุซ้ำอีก แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อน โดยตนได้บวชเป็นพระมาได้ประมาณ 8 เดือนแล้วและจำวัดอยู่ที่วัดทรายมูลเมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งก่อนจะลงมือก่อเหตุตนเองจะตรวจสอบว่าวัดไหนจัดงานทำบุญขึ้นและมีประชาชนมาร่วมบริจาคเงินเป็นจำนวนมากก็จะว่าจ้างให้นายทวิทย์ขับรถจาก จ.เชียงใหม่ มาส่งที่วัดดังกล่าวและทำที่มาติดต่อธุระที่วัดนั้น ก่อนจะขอเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่มีใครสงสัยเนื่องจากตนเองเป็นพระจริงๆ และฉวยโอกาสเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิก่อนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปทำการสึกจากความเป็นพระและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนนายทวิทย์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด โดยอ้างว่าถูกนายเจษฎาพันธ์ว่าจ้างมาให้ขับรถให้ครั้งละ 2 พันบาทเท่านั้น

ด้าน พ.ต.ท.โสวัชร์กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัตินายเจษฎาพันธ์พบว่าเคยถูกจับในคดีลักทรัพย์ใน จ.เชียงใหม่ และจ.ลำพูน และศาลตัดสินให้รอลงอาญา 2 ปี โดยอยู่ในระหว่างรอลงอาญา แต่ก็กลับมาก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยคนร้ายจะเลือกลงมือแต่วัดที่มีคนมาทำบุญเป็นจำนนวนมาก โดยหากวัดใดพบว่าเคยถูกคนร้ายแต่งกายเป็นพระเข้าไปลักทรัพย์สามารถมาชี้ตัวได้ที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น