xs
xsm
sm
md
lg

ตีนแมวแสบโจรกรรมเครื่องเพชรพร้อมทองคำ 10 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพกล้องวงจรปิดขณะผู้ต้องหาลงมือลักทรัพย์ร้านอัญมณี ฉกเครื่องเพชรพร้อมทองคำมูลค่านับ 10 ล้านบาท
เกิดเหตุโจรยกเค้าบริษัทค้าอัญมณียามรุ่งสาง พฤติกรรมสุดแสบเจาะหลังคาโรยตัวลงจากฝ้าเพดานห้องน้ำ ตัดสายไฟกล้องวงจรปิดภายในเรียบ! พร้อมทั้งงัดตู้เซฟขนเครื่องเพชรพร้อมทองคำมูลค่านับ 10 ล้านบาทลอยนวล!

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ต.ค. 55 ร.ต.ต.พิสิษฐ์ เฮงที รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ภายในบริษัท บาเซล จำกัด เลขที่ 161/207-9 ม.บัณฑิตโฮม ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ขึ้นไปที่ชั้น 2 พบร่อยรอยประตูถูกงัดจากด้านนอก เมื่อเข้าไปในห้องผู้จัดการบริษัท ที่โต๊ะมีรอยถูกของแข็งงัดออก ทรัพย์สิ้นถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย นอกจากนี้ยังพบตู้เซพขนาด 50x70 ซม. มีร่องรอยการถูกงัดแงะจนฝาตู้เซพหลุดออกมา โดยทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้เซพหายไปทั้งหมด ประกอบด้วย เพชรที่เจียระไนแล้วมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท เครื่องประดับอัญมณีจำนวน 400 ชิ้น มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ทองคำแท่งและทองคำตัวเรือน มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อขึ้นไปบริเวณชั้น 4 ภายในห้องน้ำยังพบฝ้าเพดานทะลุลงมาจากหลังคาและมีบันไดเหล็กพาดขึ้นไปด้านบน เจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายณรงค์ หรรษานนท์ อายุ 49 ปี เจ้าของบริษัทกล่าวว่า อาคารดังกล่าวตนเองได้เปิดบริษัทค้าขายจิวเวลรี และเครื่องประดับอัญมณีต่างๆ โดยมีสาขาตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โดยมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 10 คน ก่อนเกิดเหตุวานนี้ตนเองและพนักงานได้ช่วยกันปิดบริษัทและกลับบ้านพร้อมกัน โดยออกจากบริษัทฯ เวลาประมาณ 18.00 น. โดยประตูและหน้าต่างทุกบานถูกล็อกอย่างเรียบร้อย จนมาทราบว่าทรัพย์สินถูกโจรกรรมเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้โดยพนักงานที่เข้ามาพบเป็นคนแรกได้โทร.มาบอกว่ามีคนร้ายได้เข้ามางัดตู้เซพภายในบริษัท ตนจึงรีบเดินทางมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ นอกจากนี้ที่กล้องวงจรปิดยังพบว่าคนร้ายได้ถอดสายไฟออกไปทั้งหมด เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ที่ตั้งของตู้เซพเป็นอย่างดี และรู้วิธีการทำลายภาพกล้องวงจรปิด โดยที่ห้องอื่นๆ คนร้ายไม่ได้แตะต้องแต่อย่างใด

ด้าน ร.ต.ต.พิสิษฐ์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดดังกล่าวพบว่าสัญญาณภาพได้ถูกตัดขาดไปเมื่อเวลา 04.05 น.วันที่ 11 ต.ค. จึงทำการตรวจสอบภาพย้อนหลังพบว่าคนร้ายได้สวมเสื้อแขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมหมวกไหมพรมและถุงมือสีดำ มีลักษณะรูปร่างท้วม โดยสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีประมาณ 3-4 คน เพราะตู้เซฟถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากที่เดิมและมีน้ำหนักมากไม่น่าจะลงมือเพียงคนเดียวได้ และคนร้ายน่าจะเข้ามาจากทางหลังคาด้านบน โดยเจาะฝ้าเพดานห้องน้ำของชั้น 4 แล้วโรยตัวลงมาขโมยทรัพย์สินที่อยู่ชั้น 2 ก่อนนำบันไดของบริษัทมาปีนหนีออกไปทางเดิม อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น