อัยการเตรียมฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ บุกทำเนียบ และรัฐสภา 20 พ.ย.นี้ พร้อมคดีหมิ่นประมาท"ทักษิณ-เนวิน" ส่วนคดีชุมนุมสนามบิน เลื่อนสั่งคดีไปเป็น 20 ธ.ค.นี้ เหตุผู้ต้องหามีจำนวนมาก ยังพิจารณาสำนวนไม่เสร็จ
วันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รับมอบอำนาจจากกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาคดีร่วมชุมนุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง เข้าพบคณะทำงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 และ 10 เพื่อขอเลื่อนการสั่งคดี รวม 6 คดี ประกอบด้วย
คดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล พร้อมแกนนำ และแนวร่วมพันธมิตรฯ รวม 114 คน ร่วมกันชุมนุมที่สนามบินเมื่อปี 2553 คดีแกนนำพันธมิตรฯ และแนวร่วมรวม 21 คน ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 5-7 ต.ค.2551 คดี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และแกนนำพันธมิตรฯ 6 คน นำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26-31 ส.ค. 2551 คดี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และแกนนำรวม 9 คน ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง
คดีนายสนธิ แกนนำพันธมิตรฯ หมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2551
น.ส.พวงทิพย์ เปิดเผยภายหลังพบคณะทำงานอัยการ ว่า คดีพันธมิตรฯ ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ และคดี 9 แกนนำฯ ก่อความวุ่นวาย อัยการพิจารณาคดียังไม่แล้วเสร็จ จึงเลื่อนฟังคำสั่งไปเป็นวันที่ 20 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ส่วนคดีแกนนำพันธมิตรฯ ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบ และรัฐสภา รวมทั้งคดี นายสนธิ หมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2551 นั้น อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 ทำสำนวนพร้อมที่จะสั่งฟ้องต่อศาลแล้ว จึงนัดให้นำผู้ต้องหามารายงานตัววันที่ 20 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ ตนได้ยื่นขอเลื่อนสั่งคดี เนื่องจากผู้ต้องหาดังกล่าวติดภารกิจ ไม่สามารถมาศาลได้ ขณะเดียวกัน ก็ได้ไปยื่นหนังสือยังกองทุนยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องหลักทรัพย์และเงินประกันตัวแก่แนวร่วมพันธมิตรฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีชุมนุมที่สนามบิน และอาคารรัฐสภา รวม 60 คน ส่วนแกนนำพันธมิตรฯ จะใช้หลักทรัพย์ของตนเองในการประกันตัว
ด้าน นายประยุทธ ป.สัตยรักษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 กล่าวว่า วันที่ 20 พ.ย.นี้ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คดีจะต้องมารายงานตัวเพื่อจะส่งฟ้องศาล เนื่องจากได้ทำสำนวนคดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่หากผู้ต้องหาไม่มาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการออกหมายจับ หรือตามตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาลต่อไป