เมื่อหัวค่ำคืนที่ผ่านมา (1 ต.ค.) เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน “เสริมศักดิ์-เจ๊เบียบ พงษ์พานิช” กลางซอยโชคชัย 4 หวิดวอดทั้งหลัง คาดความเสียหายมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เผย ตร.สันนิษฐานไฟฟ้าลัดวงจรจากห้องเก็บของชั้น 3 ก่อนลุกลามเผาผลาญอย่างรวดเร็ว โชดดีนักผจญเพลิงรุมฉีดน้ำสกัดไว้ได้เพลิงจึงสงบ
วานนี้ (1 ต.ค.) เวลา 21.00 น. ร.ต.อ.วราวุธ หนูชู พงส.(สบ 1) สน.โชคชัย รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ ภายในบ้านเลขที่ 2/68 หมู่บ้านโอษธิศ 1 ซึ่งเป็นบ้านของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย สามีนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น อยู่กลางซอยโชคชัย 4 ซอยย่อย 39 แยก 3 แขวงและเขตลาดพร้าว (ใกล้กองปราบปราม) จึงรีบประสานรถบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก. และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 หลังปลูกติดกัน หลังแรกสูง 3 ชั้น หลังที่สองสูง 2 ชั้น ลักษณะเชื่อมติดกัน อยู่ในที่ดินขนาด 1 ไร่เศษ รั้วรอบขอบชิด บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านสูง 3 ชั้น พบเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ที่ชั้น 3 เปลวเพลิงแดงฉานลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำสกัดอย่างเร่งด่วน ใช้เวลา 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบบริเวณชั้น 3 มีห้องได้รับความเสียหายรวม 2 ห้อง คือ ห้องเก็บของและห้องนอน ส่วนที่ชั้น 2 พบห้องนอนได้รับความเสียหาย 1 ห้อง นอกจากนี้ยังมีปืนขนาด 11 มม.ได้รับความเสียหาย 1 กระบอกด้วย ทั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ต่อมานายเสริมศักดิ์เปิดเผยว่า ภายในบ้านหลังนี้ปกติอยู่กัน 4 คน คือ ตน นางระเบียบรัตน์ ลูกชาย และลูกสาว ขณะเกิดเหตุกลับมาจากทำธุระด้านนอกบ้านพอดี ระหว่างอยู่ในบ้านได้ 2 นาทีได้ยินเสียงเพื่อนบ้านตะโกนบอกว่าเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากชั้น 3 จึงรีบวิ่งขึ้นไปดู พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ที่ห้องเก็บของชั้นดังกล่าว จากนั้นได้รีบไปนำถังดับเพลิงมาทำการฉีดสกัดเปลวเพลิง โดยมีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือ แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วทำให้ตัดสินใจแจ้งตำรวจประสานรถบรรเทาสาธารณภัย กทม.มาช่วยฉีดน้ำจนเพลิงสงบ ทั้งนี้จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุภายในบ้านไม่มีใครอยู่ มีเพียงนายเสริมศักดิ์เท่านั้นที่กลับมาก่อนเพลิงไหม้ไม่นานนัก จากนั้นจึงเกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้องเก็บของชั้น 3 ก่อนจะลุกลามไปยังห้องอื่นๆ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป