รอง ผบช.น.ถกชุดเฉพาะกิจตรวจสถานบริการผิด กม.

“อดุลย์” เรียกประชุมวางแผนปฏิบัติงานแก้ปัญหาสถานบริการและสถานประกอบการผิดกฎหมายทั่วกรุงเทพฯ เร่ง 2 ปัญหาใหญ่ อาบอบนวด-การแสดงดนตรีในร้านอาหาร พร้อมสรุปผลงานทุก 3 เดือน เผยอาบอบนวดไม่มีใบอนุญาตอื้อ!!

วันนี้ (3 ก.ย.) เวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจสอบการดำเนินกิจการสถานบริการและสถานประกอบการ (ชตส.บช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย มุสิกเจริญ ผบก.อก.บช.น. ได้เรียกประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมข้อมูล วางแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสถานบริการและสถานประกอบการ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.อดุลย์เปิดเผยหลังการประชุมว่า หลังจากได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้มีการเตรียมระบบข้อมูลทั้งหมด โดยเริ่มจากสถานบริการในขณะนี้มีอยู่ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก สถานบริการที่ได้รับอนุญาต 629 แห่ง แบ่งออกเป็นในโซน 190 แห่ง และนอกโซน 439 แห่ง และส่วนที่สอง สถานบันเทิงที่ยังไม่ได้รับอนุญาตอีก 1,312 แห่ง ซึ่งขณะนี้ข้อมูลยังไม่ครบและต้องดูว่าที่ไม่ได้รับใบอนุญาตอยู่ในโซนกี่รายและนอกโซนกี่ราย ขณะนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ส่วนข้อกฎหมายจะดำเนินการตามมาตรา 3 มีอยู่ 5 อนุ แบ่งเป็น 1. สถานบันเทิง ดิสโก้เธค หรือผับที่มีฟลอร์เต้นรำ มีใบอนุญาตทั้งหมด 57 แห่ง เปิดทำการระหว่าง 21.00-02.00 น. 2. สถานบริการพิเศษที่มีผู้หญิงบริการ ซึ่งเป็นในลักษณะแบบเก่าและไม่ค่อยมีแล้ว มีจำนวน 29 แห่ง โดยจะเปิด 2 ช่วง ได้แก่ เวลา 11.00-14.00 น. และช่วงเวลา 18.00-24.00 น. 3. สถานบริการอาบอบนวด มีได้รับอนุญาตทั้งหมด 99 แห่ง เปิดตั้งแต่ 12.00-24.00 น. แต่จะมีปัญหาอยู่บ้าง เช่น สถานที่ที่เปิดนวดแผนไทย ซึ่งสถานที่เหล่านี้จะไม่ค่อยมีใบอนุญาตและจะนำพริสตี้มาเป็นคนนวด และร้านสปา ส่วนใหญ่จะมีใบอนุญาต

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวต่อว่า 4. คาเฟ่ ร้านคาราโอเกะ จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 18.00-01.00 น. และ 5. ร้านสวนอาหารที่มีดนตรี โชว์ต่างๆ จะเปิดระหว่าง 18.00-01.00 น.

“ปัญหาจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ สถานบริการอาบอบนวดที่ไม่มีใบอนุญาตเยอะมาก รวมทั้งมีพริตตี้มาเป็นคนนวดและปัญหาต่างๆ อีก สำหรับร้านสวนอาหารที่มีดนตรี โชว์ต่างๆ ซึ่งไม่สามารถให้ดนตรีเปิดได้เกินเที่ยงคืน ถ้าเกินเที่ยงคืนไปแล้วจะถือว่าผิดกฎหมาย และขณะนี้กำลังดำเนินการเป็นเรื่องเร่งด่วน” รอง ผบช.น.กล่าว

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า ส่วนการวางแผนแบ่งเป็น 4 ส่วน 1. สถานบริการที่ได้รับอนุญาตแล้วจะมีการขอต่อใบอนุญาตใหม่ หรือทำขยายเพิ่ม ต้องให้ตรวจสอบขออนุญาตเสียก่อนเพื่อให้เป็นระเบียบ 2. สถานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปกวดขัน กวาดล้างอย่างจริงจัง 3. สถานบริการที่ทั้งได้รับอนุญาตและที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่เปิดเกินเวลาและมั่วสุมต่างๆ อาทิ ค้ายาเสพติด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบดูแลแล้วสรุปมาว่ามีสถานบันเทิงกี่แห่งที่เป็นแหล่งมั่วสุมบ้างเพื่อกวาดล้างต่อไป 4. วางกรอบอนาคต ซึ่งประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งที่กำลังเข้าสู่อาเซียน และปรับเปลี่ยนเข้า AEC (ประชาคมอาเซียน) จึงต้องวางกรอบไว้เพื่อวางแผนต่อไป

“ส่วนการวางแผนกวาดล้างจะมีตารางรอบปี โดยทุกเดือนจะมีตารางปฏิบัติเพื่อให้ทราบข้อมูล และจะมีสรุปผลการทำงานทุก 3 เดือน ทั้งนี้ การปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่จะทำตามกฎหมายเป็นหลัก” รอง ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย