บก.น.9 แถลงผลจับกุม 2 นักศึกษาเทคนิคเตรียมก่อเหตุใช้ระเบิดบุกถล่มอาชีวะคู่อริ ยึดของกลางเป็นระเบิดประดิษฐ์ 12 ลูก อาวุธมีดยาว 1 เล่ม
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ชยุต รัตนอุบล พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายชาญชัย ฉิมสังข์นันท์ อายุ 19 ปีอยู่บ้านเลขที่ 82/5 หมู่ 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. พร้อมของกลางวัตถุระเบิดชนิดประกอบเอง ภายในบรรจุด้วยดินระเบิดรวมกับก้อนหินแล้วพันด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 12 ลูก อาวุธมีดยาวประมาณ 2 ฟุต จำนวน 1 เล่ม และกระเป๋าหนังแบบสะพาย 1 ใบ โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่บริเวณแยกบางบอน 5 ถ.เอกชัย แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม. เวลาประมาณ 16.45 น.วานนี้ (28 ส.ค.)
พล.ต.ท.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า ปัจจุบันในเขตกรุงเทพมหานครมีเหตุนักเรียนอาชีวะยกพวกตีกันและทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธชนิดที่ร้ายแรงขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบ่อยครั้ง รวมทั้งยังทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับอันตรายไปด้วย จึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยในสังกัด บช.น.ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว
พล.ต.ต.รัษฎากรกล่าวว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ถูกนักเรียนจากวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม ย่านบางบอน ยกพวกไปรุมทำร้ายที่ จ.สมุทรสาคร ทำให้นายชาญชัย และนายแบงค์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาครเกิดความโกรธแค้นที่เพื่อนร่วมสถานบันถูกรุมทำร้าย ต่อมานายชาญชัยได้นำระเบิดที่ทำขึ้นเองไปดักทำร้ายสถาบันคู่กรณีเป็นการแก้แค้น
พล.ต.ต.รัษฎากรกล่าวอีกว่า นายชาญชัยได้นั่งซ้อนรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กลง 603 สมุทรสาคร มีนายแบงค์เป็นคนขี่ พอมาถึงบริเวณจุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางบอน ได้ตั้งด่านอำนวยการจราจรและป้องกันเหตุอยู่แล้วพบว่าผิดสังเกตจึงได้เรียก จยย.คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น ปรากฏว่านายชาญชัยที่ซ้อนท้ายมาได้วิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ทัน จากการตรวจสอบของกลางจำนวนดังกล่าว จึงควบคุมตัวทั้งสองรายไปสอบสวน
จากการสอบสวนนายชาญชัยให้การรับสารภาพว่าได้ศึกษาวิธีการประกอบระเบิดมาจากอินเทอร์เน็ต โดยภายในบรรจุด้วยดินระเบิดที่แกะออกมาจากระเบิดปิงปองรวมกับก้อนหิน แล้วใช้กระดาษห่อหุ้มไว้ พันด้วยเทปกาวสีดำ เมื่อใช้ขว้างกระทบพื้นหรือวัตถุแข็งจะระเบิดออกมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและพกพาอาวุธ ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป