ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี 22 ชาวต่างชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นอันเป็นความผิดฐานเป็นซ่องโจร ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน
ที่ศาลอาญา วันนี้ (27 ส.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1520/2555 ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเสือ พ่าว เซิง หรือนายชิน เปาเชียง ชาวจีน กับพวกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-22 ประกอบไปด้วยชาวจีน 15 คน ชาวไต้หวัน 7 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นอันเป็นความผิดฐานเป็นซ่องโจร
คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อประมาณ เดือน มี.ค. 2555 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และเจ้าหน้าที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ได้เข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 29/817 โครงการเมืองทองธานี 2 ซอย 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และสามารถจับกุมสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ภายในบ้านเช่าดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเหยื่อที่ประเทศจีน และไต้หวัน โดยหลอกลวงเหยื่อว่าพบการทำธุรกรรมทางการเงินหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย และให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี ได้ของกลางคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์บ้าน บทสนทนาภาษาจีน รายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 จำเลยทั้ง 22 คน ให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งหมดกระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นอันเป็นความผิดฐานเป็นซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน