สโมสรตำรวจ ตร.ร่วมประชุมวางแผนโครงการติดตามประเมินผลและแนวทางปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านงานจราจรในการเสด็จพระราชดำเนิน (เป็นการส่วนพระองค์)
วันนี้ (15 ส.ค.) เวลา 09.00 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ดูแลความมั่นคงและกิจการพิเศษเป็นประธานในการประชุมโครงการติดตามประเมินผลและแนวทางปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านงานจราจรในการเสด็จพระราชดำเนิน (เป็นการส่วนพระองค์) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ตัวแทนจากศูนย์การค้า, ศูนย์ประชุม, โรงละคร, สถานศึกษา, สำนักงานขนส่ง, โรงแรม เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายและแนวทางปฏิบัติ รวมถึงความมั่นใจในการถวายความปลอดภัยและอำนวยการจราจรการเสด็จพระราชดำเนิน
พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า วันนี้จะทำความเข้าใจต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานถวายความสะดวกและความปลอดภัยในการเสด็จพระราชดำเนิน (เป็นการส่วนพระองค์) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้จัดพิมพ์สมุดคู่มือขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและแจกจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยการประชุมโครงการติดตามประเมินผลและแนวทางปฏิบัติในการถวายความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการเสด็จพระราชดำเนิน (เป็นการส่วนพระองค์) นี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานมีความเข้าใจที่ตรงกันและมีความมั่นใจในการปฏิบัติ สำหรับข้อกังวลต่างๆ ของตำรวจนั้น เช่น เวลามีการก่อสร้าง ต้องให้คนงานลงจากตึก แต่ตามพระราชประสงค์ใหม่นั้นไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น หรืออย่างเช่นรถที่วิ่งสวนเลนฝั่งตรงข้าม เดิมต้องเข้าปั๊มน้ำมัน หรือเข้าไปในซอย แต่แนวใหม่อนุญาตให้จอดชิดขอบทางได้พร้อมดับเครื่อง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจทั้งหมดเน้นการถวายความปลอดภัยเป็นที่สุด
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. (ดูแลงานจราจร) ได้กล่าวให้นโยบายกับตำรวจจจราจรว่า จากนโยบายที่ได้มีการกำหนดไว้นั้น ต้องถือปฏิบัติและต้องปฏิบัติอย่างเข้มแข็งและจริงจัง ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนซึ่งได้รับผลกระทบจากการจราจรในการเสด็จพระราชดำเนิน จึงมีพระราชกระแสให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์เป็นการส่วนพระองค์ ปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรถวายความสะดวกและไม่ต้องปิดถนนเป็นเวลานาน เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้รถใช้ถนนได้ตามปกติ
