โดย ผู้กองตั้ง
@@@ หายใจได้ทั่วท้องอีกสัปดาห์กว่าๆ เท่านั้นกับ 19 จำเลยแกนนำ นปช.แดง ที่ศาลได้นัดฟังคำตัดสินว่าจะเพิกถอนประกันตัวชั่วคราวหรือไม่ หลังถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดเงื่อนไขในการขอประกันตัวชั่วคราวคดีก่อการร้าย 22 ส.ค.นี้รู้ชะตะกรรมแน่...ตัวใครตัวมัน!!
แต่จำเลยที่น่าหนักใจที่สุดคงหนีไม่พ้น นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" ที่ศาลใช้เวลาซักนานที่สุดประมาณ 20 นาที พร้อมเปิดหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอคำปราศรัยมัดคอ โดยให้โอกาสไปหาข้อแก้ต่างที่อ้างว่ามีการตัดต่อคลิป
ขณะที่จำเลยร่วมฝีปากกล้าแต่ขาสั่นต่างตีกรรเชียงหนี ก้มหน้าให้การไม่รู้เห็นต่อการกระทำของ "เจ๋ง ดอกจิก" เพราะไม่อยากเข้ากรงขังเป็นครั้งที่สอง งานนี้ "เจ๋ง" มีสิทธิ์เจอขังเดี่ยว
ส่วน ส.ส.เพื่อไทยทั้ง 5 คนที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ คือ นพ.เหวง โตจิราการ, นายการุณ โหสกุล, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็อย่าเพิ่งดีใจจนออกนอกหน้า เพราะเหมือนกับศาลรู้ทัน ที่ให้เลื่อนไต่สวนไปวันที่ 29 พ.ย. เพราะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ในระหว่างนี้ก็จะติดตามพฤติกรรมของจำเลยทั้ง 5 ว่ากระทำผิดเงื่อนไขประกันตัวอีกหรือไม่ แถมมีสิทธิ์เจอบวกโทษติดคุกหลายกระทง หากเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แต่ยังทำตัวกร่างไปวันๆ หลังหมดสิทธิใช้เอกสิทธิ์คุ้มกะลาหัว
ปิดท้ายกันด้วยกรณี ดีเอสไอได้เดินทางมาแจ้งต่อศาลเพื่อขออายัดตัว นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อดีตลูกสมุนมือขวา เสธ.แดง จำเลยที่ 17 ในข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อครั้งก่อเหตุจลาจลเผาบ้านเมือง พร้อมทั้งควบคุมตัวไปไว้ที่ห้องขังใต้ถุนบันไดศาล เสมือนตบหน้าแกนนำ นปช.ฉาดใหญ่....
@@@อย่าปล่อยให้ น.ส.มาธวี วัฒนกุล หรือน้องมายด์ อายุ 21 ปี ลูกสาวคนเล็ก ดารารุ่นใหญ่ "โกวิท วัฒนกุล" ที่ขับรถเบนซ์ตกช่องทางต่างระดับรัชวิภาฝั่งขาเข้า เสียชีวิตพร้อมเพื่อนชายรวม 2 ศพ ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนมีแนวโน้มสรุปว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ โดยระบุว่าเมื่อผู้ที่อยู่ในรถเสียชีวิตทั้ง 2 รายก็อาจจะต้องปิดคดีไปโดยปริยาย
แต่หลังเกิดเหตุ ทางกรุงเทพมหานครได้นำกรวยสีส้มมาวางไว้ยังจุดต้นตอที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นสัญญาณเตือนจุดอันตรายซึ่งมีรูปเป็นตัววาย ทำเหมือนวัวหายแล้วล้อมคอกแบบชั่วคราว แต่ไม่มีป้ายสัญญาณเตือนจุดตัดแยกที่เป็นอันตรายอย่างถาวร แล้วจะให้เชื่อมั่นได้อย่างไรว่าในอนาคตจะไม่มีผู้ประสบเหตุเช่นนี้อีก ....รวมทั้งจุดตัดอื่นๆทั่วเมืองกรุงอีกล่ะ
หลังเสร็จสิ้นฌาปนกิจน้อง 2 ทั้งสองแล้ว อยากร้องขอให้ครอบครัวของผู้สูญเสียได้ร่วมกันสร้างบรรทัดฐานให้ผู้สัญจรผ่านทางด่วนทางยกระดับเสียที ด้วยการเดินทางไปฟ้องร้องกรุงเทพมหานครต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องชดใช้ค่าเสียหาย จะแพ้หรือชนะคดีไม่ใช่ประเด็น แต่จะได้เป็นบรรทัดฐานในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน กรณีเกิดอุบัติเหตุเช่นเดียวกับ "น้องมายด์" ที่มีอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลังว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของฝ่ายใดกันแน่ ไม่ใช่เพียงแต่มองว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับรถโดยประมาทแต่เพียงฝ่ายเดียว
@@@ เอาอีกแล้วครับท่าน แท็กซี่เคราะห์ร้ายถูกโจรโหดลวงฆ่าชิงทรัพย์ ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 62 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ที่เกิดพบศพนายจินดา หันแถลง อายุ 30 ปี โชเฟอร์เสียชีวิตในสภาพยังคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ โดยพบบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด รวมทั้งหมด 5 แผล กระเป๋าเงินหายไป ในซอยดังกล่าวชาวบ้านแจ้งว่า แท็กซี่ถูกล่อลวงไปชิงทรัพย์ หรือแท็กซี่เองข่มขืนผู้โดยสาร มาแล้วหลายครั้งแล้ว
ขอฝากเป็นการบ้านให้ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 พ.ต.อ.สมบัติ หงส์ทอง ผกก.สน.อุดมสุข ช่วยเร่งรัดคดีและจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้คดี 2 คนร้ายก่อเหตุลวงโชเฟอร์แท็กซี่เข้ามาในหมู่บ้านสัมมากร ย่านรามคำแหง ในพื้นที่ สน.บางชัน ก่อนลงมือปาดคอชิงทรัพย์ในลักษณะเดียวกันมาแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. แต่นี่ผ่านมากว่า 1 เดือนเศษคนร้ายยังคงลอยนวล ยิ่งทำให้โจรฆ่าปาดคอเหิมเกริมหนักและก่อคดีซ้ำซากในพื้นที่ บก.น.4 ."เดอะแจ๊ส" ผบช.น.จะว่าอย่างไร....วิญญาณ "นายเสาร์ นามโพ" เหยื่อมือมีดยังร้องขอความเป็นธรรมอยู่ครับ
@@@ ยังกัดติดกับพฤติกรรมชั่วของ นางฐิตินันท์ แก้วจันทรานนท์ อายุ 63 ปี ที่กระทำการมิบังควรต่อพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. และถูกนำตัวส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อทำการประเมินผลการตรวจ “เคสคอนเฟอเรนซ์” ว่าเป็นคนวิกลจริตหรือไม่ ครบ 1 เดือนพอดิบพอดี ซึ่งคงจะใกล้รู้ผลแล้วว่า "ป้าเห็บหมา" บ้าจริงหรือแกล้งบ้า คงหนีไม่พ้นวิบากกรรมใน 2 กรณี หากบ้าจริงและได้รับการยกเว้นโทษก็คงออกมาเดินเหินกลางถนนอย่างคนปกติสุขไม่ได้ หรือแกล้งบ้าก็คงติดคุกหัวโตหรืออาจจะอยู่รับโทษในคุกไม่ตลอดรอดฝั่ง
@@@ ปิดท้ายกันด้วยเรื่อง...ชวนขนหัวลุกกับผู้โดยสารรถปรับอากาศ หมายเลขทะเบียน 10-4810 กรุงเทพมหานคร ซึ่งวิ่งระหว่างนครราชสีมา-กรุงเทพฯ หลังเด็กรถพบกระเป๋าต้องสงสัยวางซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บสัมภาระ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบพบเป็นระเบิด-อาวุธสงครามหลายรายการ จะเรียกว่าเป็นคลังแสงขนาดย่อยก็ย่อมได้ โดยคนร้ายใช้หมอน 2 ใบรองใต้ถุงผ้าเพื่อกันระเบิดกระแทก แต่หากเกิดระเบิดขึ้นมาก็คงไม่ต้องบรรยาย
แม้ว่า ตร.ได้สอบปากคำคนขับรถทัวร์ ก่อนประสานตำรวจโคราชเพื่อหาต้นตอกระเป๋าและติดตามเจ้าของกระเป๋าอาวุธมาดำเนินคดี แต่กว่าสัปดาห์แล้วยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ?.... หรือข่าวลือหนาหู ที่คาดว่าอาวุธสงครามชุดนี้แท้จริงเป็นฝีมือการจัดฉากของเจ้าหน้าที่รัฐ จะเป็นจริง!!