ญาติหอบสองผู้ต้องหาคดียิง “เอก แคโอชา” ดับข้างสถานทูตจีนเข้ามอบตัวที่ บช.น.แล้วหลังก่อเหตุใช้ จยย.2 คันเป็นพาหนะ โดยหนึ่งในคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเอก แคโอชา เข้าที่หน้าผาก 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดภายในซอยรัชดาภิเษก 3 ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา
จากเหตุการณ์มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 4 คนใช้จักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ โดยหนึ่งในคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายวุฒิชัย หรือเอก แคโอชา อายุ 30 ปี เข้าที่หน้าผาก 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดภายในซอยรัชดาภิเษก 3 ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. เวลาประมาณ 02.15 น.
ล่าสุด วันนี้ (8 ส.ค.) เวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.กก.สส.น.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง และ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากผู้ต้องหา คือ นายภาณุวัตน์ หรือบอล หนูดำ อายุ 18 ปี และนายแดง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เป็น 2 ใน 4 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีเหลือง-ดำ หมายเลขทะเบียน อตย 357 กทม. ซึ่งญาติได้พาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง แขวงและเขตดินแดง โดยนำตัวมาแถลงที่ บช.น.
พล.ต.ต.ปริญญาแถลงว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในซอยที่เกิดเหตุพบว่า ผู้ก่อเหตุมี 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายแดง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เป็นคนขับจักรยานยนต์คันของกลาง 2. นายภาณุวัตน์ หรือ บอล หนูดำ อายุ 18 ปี เป็นคนซ้อนท้ายรถคันนายแดง 3. นายสุรศักดิ์ หรือเอ ขุนทอง อายุ 20 ปี คนขับขี่จักรยานยนต์คันยิงก่อเหตุ และ 4. นายวิศวะ หรือหนุ่ม พัฒน์ทอง อายุ 20 ปี คนซ้อนท้ายและเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากญาติของนายภาณุวัตน์ และนายแดง เพื่อเข้ามอบตัวและให้ปากคำต่อสู้คดี
พ.ต.อ.ไกรเลิศเปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายภาณุวัตน์ให้การว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้เดินไปเหยียบเท้านายสุรศักดิ์ หรือเอ บริเวณห้องน้ำในสถานบันเทิง และได้นำเรื่องมาบอกกับพวก หลังจากนั้นกลุ่มผู้เสียชีวิตได้ออกมาจากร้านเพื่อไปกินข้าวในซอยที่เกิดเหตุ โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ขับขี่จักรยานยนต์ซ้อนสองไป 2 คัน แต่นายภาณุวัฒน์บอกว่าไม่รู้ว่าจะมาก่อเหตุ ซึ่งทางซอยดังกล่าวเป็นทางผ่านที่จะกลับบ้านได้ที่ย่านดินแดง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุนายวิศวะ หรือหนุ่ม ได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในกลุ่มผู้เสียชีวิตจำนวน 2 นัด แต่ไม่ได้เจาะจงอะไรและมาทราบภายหลังจากข่าวออกไปแล้ว นายภาณุวัฒน์จึงกลัวความผิดเลยได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อทางญาติทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงให้เดินทางมามอบตัวในที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ก่อนนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ข.เขตห้วยขวาง จะพานายสุรศักดิ์ หรือเอ ขุนทอง ซึ่งหลบหนีไปอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เข้ามอบตัวอีกรายเพื่อต่อสู้คดี ส่วนนายวิศวะ หรือหนุ่ม คนใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณียังหลบหนีอยู่ทางภาคใต้ในขณะนี้