ตะครุบแก๊งดอกกุหลาบ วิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ตร.ทุ่งมหาเมฆตะครุบตัวแก๊งดอกกุหลาบวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่หน้าสถานทูตสิงคโปร์ย่านสาทรเหนือ ได้ของกลางเป็นเงินสดกว่า 2 หมื่นบาท และเงินเยนอีก 3 หมื่นบาท ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจะหากินอยู่ในย่านสุขุมวิท และสีลม ก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง เตรียมเงินไว้ให้ภรรยาคลอดบุตร ประวัติเคยถูกจับในข้อหาเสพยา และพรากผู้เยาว์

วันนี้ (7 ส.ค.) พ.ต.ท.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ สว.สส.สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ จับกุมนายณัฐชลิต สุขคำ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 401 ถนนประชาชื่น แขวงและเขตบางซื่อ กทม. และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี พร้อมของกลางเงินสดไทย 25,880 บาท เงินสกุลเยน 30,000 เยน ดอกกุหลาบ 1 กำใหญ่ กระเป๋าสตางค์สีดำ 1 ใบ รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปไอ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน อตส-478 กทม. โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าสถานทูตสิงคโปร์ ถนนสาทรเหนือ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ

พ.ต.ท.ศยามเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายซาซากิ มานาบุ อายุ 44 ปี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นพร้อมแฟนสาวกำลังเดินอยู่บริเวณปากซอยสีลมซอย 4 แขวงสีลม เขตบางรัก เพื่อกลับเข้าโรงแรมที่พัก นายศักดิ์ก็ทำทีเข้าไปขายดอกกุหลาบให้ ก่อนจะอาศัยจังหวะทีเผลอล้วงกระเป๋าคาดเอวของนายซาซากิ หยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมา จากนั้นก็รีบวิ่งไปขึ้นจักรยานยนต์ที่มีนายณัฐชลิตติดเครื่องรออยู่ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันสกัดที่บริเวณแยกวิทยุ และแยกศาลาแดง จนกระทั่งพบผู้ต้องหาทั้งสองคนขับขี่จักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่แยกวิทยุ แต่เมื่อทั้งสองเห็นเจ้าหน้าที่ก็รีบกลับรถ เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไปจับกุม จนกระทั่งรถของผู้ต้องหาเสียหลักล้มคว่ำที่บริเวณหน้าสถานทูตสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมก่อนนำตัวมาสอบปากคำ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดยนายศักดิ์อ้างว่าปกติจะช่วยยายจับเต่าไปให้คนทำบุญปล่อยเต่าที่วัดสร้อยทอง แต่พอเงินขาดมือก็จะหาดอกกุหลาบมาทำทีขายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างๆ ย่านสุขุมวิท สีลม สุริวงศ์ ก่อนจะอาศัยจังหวะทีเผลอล้วงกระเป๋าของเหยื่อแล้วรีบขึ้นจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนีไปทันที ได้เงินมาก็จะแบ่งให้ยายกับภรรยาใช้ ซึ่งตอนนี้ภรรยากำลังตั้งท้องอยู่จำเป็นต้องใช้เงินเลยออกมาก่อเหตุ โดยทำมาแล้ว 2 ครั้ง ได้เงินมาแค่ครั้งละ 1,000 กว่าบาท ส่วนนายณัฐชลิตอ้างว่าปกติขับวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ย่านโลตัสเตาปูน ก่อนเกิดเหตุนายศักดิ์โทร.ชวนให้ขี่รถมาส่งที่ย่านสีลม โดยไม่รู้มาก่อนว่าจะชวนมาวิ่งราวทรัพย์

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองคนพบว่า นายศักดิ์เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาและครอบครองกัญชา ในท้องที่ สน.เตาปูน เมื่อปี 52 และ 53 ส่วนนายณัฐชลิตเคยถูกจับข้อหาเสพยาในท้องที่ สน.เตาปูน และข้อหาพรากผู้เยาว์ในท้องที่ สน.ประชาชื่น เมื่อปี 51 ระยะเวลาห่างกันแค่ 1 เดือน ติดคุกอยู่นาน 1 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ