จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงนายวุฒิชัย หรือเอก แคโอชา อายุ 30 ปี เข้าที่หน้าผาก 1 นัด เสียชีวิตในเวลาต่อมา ภายในซอยรัชดาภิเษก 3 หรือซอยสถานเอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม. โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงที่ร้านเพียวบาร์ ซอยรัชดาภิเษก 4 จนกระทั่งร้านปิดและได้แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่กลุ่มผู้ตายพร้อมเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาที่ซอยดังกล่าวเพื่อมากินข้าวก่อนจะมาเกิดเหตุขึ้นในที่สุด ทั้งนี้ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง พบว่ามีสถานบันเทิงอยู่เป็นจำนวนมาก อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทจนนำไปสู่การก่อเหตุด้วยการใช้อาวุธปืนมาตามไล่ยิงคู่กรณีจนมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายคดี
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 เปิดเผยถึง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการก่อเหตุร้ายว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมเข้มเรื่องเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ สน.ห้วยขวางแล้ว แต่ยังมาเกิดเหตุครั้งล่าสุดอีก จึงได้กำชับไปยังสายตรวจของ สน.ห้วยขวาง ให้มีการปรับแผนเฝ้าระวังเพิ่มเติม และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบให้เข้มข้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการตั้งด่านตรวจหลังจากสถานบันเทิงปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งตนจะส่งชุดเคลื่อนที่เร็วของ บก.น.1 เข้าไปสมทบเพื่อช่วยงานสายตรวจ ตั้งแต่เวลา 23.00-05.00 น.ทุกวัน โดยจัดส่งผลัดละ 10 นาย
พล.ต.ต.พชรกล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นล่าสุดในพื้นที่ สน.ห้วยขวางนั้น ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าไม่มีสายตรวจไปอยู่ในที่เกิดเหตุ และขณะนี้ตนได้ให้แผนการปฏิบัติไปหมดแล้ว ต่อไปก็ต้องให้สารวัตรปราบปรามของ สน.ห้วยขวาง ดำเนินการคุมเข้มลูกน้องซึ่งเป็นสายตรวจต่ออีกทีและต้องอย่าปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้เด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งด่านตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนของเขตห้วยขวาง คือ เวลาที่ผับเลิก เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แน่นอน
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.น.1 เปิดเผยถึง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการก่อเหตุร้ายว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมเข้มเรื่องเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิงในพื้นที่ สน.ห้วยขวางแล้ว แต่ยังมาเกิดเหตุครั้งล่าสุดอีก จึงได้กำชับไปยังสายตรวจของ สน.ห้วยขวาง ให้มีการปรับแผนเฝ้าระวังเพิ่มเติม และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบให้เข้มข้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการตั้งด่านตรวจหลังจากสถานบันเทิงปิดให้บริการไปแล้ว ซึ่งตนจะส่งชุดเคลื่อนที่เร็วของ บก.น.1 เข้าไปสมทบเพื่อช่วยงานสายตรวจ ตั้งแต่เวลา 23.00-05.00 น.ทุกวัน โดยจัดส่งผลัดละ 10 นาย
พล.ต.ต.พชรกล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นล่าสุดในพื้นที่ สน.ห้วยขวางนั้น ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าไม่มีสายตรวจไปอยู่ในที่เกิดเหตุ และขณะนี้ตนได้ให้แผนการปฏิบัติไปหมดแล้ว ต่อไปก็ต้องให้สารวัตรปราบปรามของ สน.ห้วยขวาง ดำเนินการคุมเข้มลูกน้องซึ่งเป็นสายตรวจต่ออีกทีและต้องอย่าปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนี้เด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้งด่านตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนของเขตห้วยขวาง คือ เวลาที่ผับเลิก เชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แน่นอน