โฆษก ตร.เผยความคืบหน้าคดี “ป้าแก่” หมิ่นพระบรมฉายาลักษณ์ ทาง บช.น.ตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว ซึ่งต้องรอการประเมินผลจากคณะจิตแพทย์อีกครั้งว่าเข้่้าข่ายวิกลจริตหรือไม่ ยืนยันมีระบบป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีอย่างดี และมีหมายจับติดตัว
วันนี้ (25 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวยืนยันกรณีการดำเนินคดีต่อนางฐิตินันท์ แก้วจันทรานนท์ อายุ 63 ปี ที่ก่อเหตุไม่เหมาะสมต่อพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตำรวจดำเนินคดีอย่างเป็นขั้นตอน ล่าสุด พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้ตั้งคณะกรรมการระดับกองบัญชาการรับผิดชอบคดีนี้ มี พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน มี พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ร่วมในคณะด้วย
ล่าสุด ตนได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ยืนยันว่านางฐิตินันท์ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. ขณะนี้รอคำวินิจฉัยจากจิตแพทย์ว่าเป็นบุคคลที่มีอาการทางประสาทหรือไม่ ซึ่งระยะเวลาที่ตรวจสอบนั้นขึ้นอยู่กับคณะแพทย์ นอกจากนี้ ศาลได้อนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้วในข้อหาหมิ่นสถาบันตามมาตรา 112
โดยก่อนหน้านี้ นพ.ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวถึงกรณีการรับตัวนางฐิตินันท์เข้ารับการรักษาตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 55 โดยพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ควบคุมตัวและนำส่งที่สถาบันฯ เพราะว่าเข้าข่ายมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.สุขภาพจิต ซึ่งเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยต่อสังคมและตัวบุคคลนั้นเอง และจำเป็นต้องได้รับการประเมินวินิจฉัย ถ้าป่วยก็รักษาตามสิทธิผู้ป่วย
จากหลักฐานเบื้องต้นของการกระทำของหญิงดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้ต้องหา แต่เมื่อพนักงานสอบสวนในขณะสอบสวนมีเหตุเชื่อว่า “วิกลจริต” ต้องพักการสอบสวนไว้ก่อน แล้วส่งให้จิตแพทย์ตรวจ ซึ่งทางสถาบันฯ ก็ต้องดำเนินการให้ความเห็นว่าวิกลจริตหรือไม่ มีสติสัมปชัญญะในการให้ปากคำหรือไม่ ภายใน 45 วัน นับแต่วันรับตัวไว้ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อรับตัวไว้แล้ว ทางสถาบันฯ ต้องมีมาตรการป้องกันการหลบหนี (มาตรา 33 ของ พ.ร.บ.สุขภาพจิต) ซึ่งทาง สน.ทุ่งสองห้องได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายมาเฝ้าที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์อีกด้วย