ตรงเป้า-ศรรามา
“เบิร์ด” อายุ 13 เป็นน้องใหม่ ร.ร.วชิรธรรมสาธิต เรียนชั้น ม.1 มีบ้านพักอยู่ชั้น 5 ยงเจริญคอมเพล็กซ์ ซอยสุภาพงษ์ 1 อ่อนนุข 46 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ อยู่กับยาย อายุ 55 เพียงสองคน เพราะพ่อตาย แม่อายุ 38 ไปมีสามีใหม่
วันที่ 12 กรกฎาคม 2555 เบิร์ดมีเรื่องชกต่อยกับนักเรียนชั้นเดียวกัน ครูให้ผู้ปกครองไปพบที่โรงเรียน ตอนเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม เบิร์ดกลับถึงที่พัก โทรศัพท์ไปบอกแม่ตอน 1 ทุ่ม นัดให้ไปพบกันที่โรงเรียน
1 โมงเช้า แม่ไปที่โรงเรียน พบแต่ยาย ไม่มีเบิร์ด ยายบอกว่า เบิร์ดออกจากห้องไปตอน 3 ทุ่ม แล้วหายไปจนบัดนี้ เสร็จธุระจากโรงเรียน ก่อนเที่ยงเล็กน้อย ก็มีคนไปพบศพเบิร์ดอยู่ที่บันไดหนีไฟ ระหว่างชั้น 3 กับชั้น 4
ตำรวจสอบสวนยาย ได้ความว่า เบิร์ดออกจากห้องไปตอน 3 ทุ่ม สวมรองเท้าแตะสีดำคาดแดง แต่บริเวณที่พบศพเบิร์ด ไม่มีรองเท้าแตะ มิหนำซ้ำ ฝ่าเท้ายังไม่มีรอยเปรอะเปื้อน ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นยายหิ้วถุงพลาสติก เดินออกจากอาคารตอนเที่ยงคืน ตำรวจถามว่าไปไหน ยายถึงกับสะอึก ตอบคำถามแบบมีพิรุธ ส่งศพไปพิสูจน์ จากบาดแผลถูกของแข็งที่ท้ายทอย และศีรษะด้านหลัง ตำรวจมั่นใจว่า เป็นการฆาตกรรม และเบิร์ดต้องถูกสังหารในอาคารแห่งนั้น ตำรวจพระโขนง ลุยตรวจสอบห้องพักทั้ง 9 ชั้น 180 ห้อง ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
15 กรกฎาคม แม่กับยายรับศพเบิร์ดจากสถาบันนิติเวช ไปบำเพ็ญกุศล 1 คืน พอรุ่งขึ้น 16 กรกฎาคม ก็ทำพิธีเผาศพเบิร์ด เป็นคำแนะนำของยาย ซึ่งแม่ก็เห็นด้วย ระหว่างนั้น ตำรวจได้หลักฐานสำคัญอยู่ในมือ แล้วมันเป็นเส้นผมติดอยู่กับศพเบิร์ด ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้ว เป็นเส้นผมของยาย
หลังจากเผาเบิร์ดแล้ว ในวันเดียวกัน ตำรวจเรียกยายไปสอบที่โรงพักพระโขนงอีกรอบ แต่ยายยังให้การเหมือนเดิม ตำรวจต้องพายายไปที่ห้องพัก ตอกย้ำภาพที่ผ่านไปไม่กี่วันและตำรวจมีหลักฐานมัดยายดิ้นไม่หลุด
เส้นผม.....รองเท้าแตะ.....ภาพในวงจรปิด
ต้องชื่นชมการทำงานของตำรวจ ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน รวมทั้ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนใหม่ ที่ลงมาจี้ลงมาไชคดีอย่างใกล้ชิด
สุดท้าย.....ยายสารภาพเป็นคนสังหารหลานชาย ด้วยมือของตัวเอง มือที่อุ้มชูเลี้ยงดูหลานคนนี้มาตั้งแต่อายุ 2 ชวบ
ยายอ้างสาเหตุว่า อับอายที่หลานไปมีเรื่องที่โรงเรียนบ่อยครั้ง เมื่ออบรมสั่งสอนหลานก็เกิดเป็นปากเสียงกันประจำ เคยถูกหลานต่อยที่หน้าอกจนสลบมาแล้วและก่อนจะใช้ไม้ฟาดศีรษะหลาน ที่กำลังนอนคว่ำหน้าดูโทรทัศน์ ก็ทะเลาะกันเรื่องหลานขอเงิน 500 บาท พอไม่ให้ก็ถูกหลานเตะ
ยายจะพูดอย่างไรก็ได้ ไม่มีใครรู้ใครเห็น เพราะอยู่ในห้องเพียงสองคน
เมื่อรู้ว่าหลานตาย ยายเอาผ้าห่มมาเช็ดเลือด แล้วเอาผ้าห่มและท่อนไม้ ใส่ถุงพลาสติก รอจนเที่ยงคืนก็ลงไปชั้นล่าง ตามที่ปรากฎในวงจรปิด เอาถุงไปที้งคลองหลังอาคาร พอตี 3 ผู้คนนอนหลับกันหมด ยายลากศพหลานไปทางบันไดหนีไฟ แต่ลากลงไปได้เพียงชั้นเดียวก็หมดแรง เลยทิ้งศพหลานไว้ที่นั่น
เปิดประวัติยาย พบว่า ตอนอายุ 36 ยายต้องคดียิงสามีของยายถึงแก่ความตาย แต่สู้คดีจนหลุดพ้นข้อหา คราวนี้อายุ 55 ก่อคดีสะเทือนใจ สะท้อนสังคมไทยวันนี้
ไม่รู้ยายจะชดใช้กรรม จนตายในคุกหรือเปล่า