ออกหมายจับแก๊งไม้เบสบอล ทุบชิงทรัพย์

ตร.ได้ภาพเสก็ตซ์คนร้ายใช้ไม้เบสบอลตี บี้-บอม 2 นักร้องเคพีเอ็นแล้ว เตรียมขอนุมัติหมายจับต่อไป มั่นใจพฤติการณ์คนร้ายและคำให้การของผู้เสียหาย น่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุในท้องที่สน.สุทธิสาร

วันนี้ (13 ก.ค.) พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก. สน.พหลโยธิน เปิดเผยความคืบหน้า คดีคนร้ายปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย นายธรรศภาคย์ ชี หรือ บี้ และ นายอนุรักษ์ บุญเพิ่มผล หรือ บอม 2 นักร้องเคพีเอ็น อวอร์ด เหตุเกิดภายในซอยพหลโยธิน 36 (ซอยเสื่อใหญ่) เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้พาผู้เสียหายทั้งสองไปเสก็ตซ์ภาพคนร้ายที่กองทะเบียนประวัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งภายหลังทำการเสก็ตซ์ภาพจนได้ตำหนิรูปพรรณที่ชัดเจนใกลเคียง จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหามตามภาพเสก็ตซ์ต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลและพฤติกรรมของคนร้ายกับ สน.สุทธิสาร แล้ว ซึ่งเชื่อว่าดูจากพฤติการณ์และคำให้การของผู้เสียหายคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุในท้องที่สน.สุทธิสารด้วย

โดยวานนี้นายเกียรติคุณ ชาติศรี อายุ 28 ปี อดีตพนักงานหนังสือพิมพ์หัวสีฉบับหนึ่ง พักอยู่แฟลต ซ.วิภาวดี 20 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา พนักงานสอบสวน (สบ2) ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ช่วงประมาณ 3 ทุ่มครึ่งได้เดินออกจากซอยวิภาวดี 20 เพื่อจะออกไปหาเพื่อนย่านลาดพร้าว ระหว่างนั้น มีชายขับรถจักรยานยนตร์รุ่น ฮอนด้าเวฟ 2 คัน มีคนร้าย 3 คน ใส่หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบ ขับมาปาดหน้า

จากนั้นคนร้ายที่ขับรถมาคนเดียวได้เดินมาหาตน แล้วชักมีดข่มขู่ให้ส่งโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น เอ็กซ์ 6 ไป แล้วคนร้ายได้ตบเข้าหน้าตนพร้อมขู่ว่า มึงแน่ใจว่าไม่มีของอีกแล้ว ตนจึงบอกว่า มีแค่นั้น ไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา ส่วนอีก 2 คน ถือไม้เบสบอล และอาวุธมีดเข้ามายืนประกบที่ด้านหลัง ก่อนจะขับรถหนีไป ในวันที่เกิดเหตุตนยังไม่ได้แจ้งความ ปล่อยเรื่องเลยตามเลย แต่พอเห็นข่าวคดีเหตุจี้ชิงทรัพย์ของ บี้ เคพีเอ็น มีลักษณะเหตุคล้ายของตน เลยรีบมาแจ้งความเพื่อให้ทาง ตร.ทราบไว้ เพราะคดีที่โดนคนร้ายใช้ยานพาหนะ และมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้ให้ฝ่ายสืบสวนสอบถามรูปพรรณคนร้ายอย่างละเอียด และตรวจสอบดูว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า คดีคนร้ายขี่ จยย.ตระเวนใช้ไม้เบสบอล ทำร้ายผู้เสียหายแล้วชิงทรัพย์ เท่าที่ตรวจสอบได้ มีผู้เสียหายเป็นนักศึกษาหญิง ถูกคนร้ายใช้ไม้เบสบอลตีเข้าที่ศรีษะ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้าจะเกิดเหตุชิงทรัพย์นักร้องหนุ่ม โดยคนร้ายใช้อาวุธไม้เบสบอลตีเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดใน ซ.ลาดพร้าว 20 เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ในเขตท้องที่ สน.สุทธิสาร ทั้งสองคดีมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาภาพคนร้าย และออกหาข่าวกลุ่มคนร้ายร่วมกับสน.พหลโยธินแล้ว

ต่อมาเวลา 13.30 น.นายธรรศภาคย์ หรือ บี้ อายุ 20 ปี นายอนุรักษ์ หรือ บอม บุญเพิ่มพูน อายุ 25 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.มานิต จันทรประสิทธิ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.พหลโยธิน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดย นายธรรศภาคย์ หรือ บี้ ยังมีบาดแผลที่บริเวณดั้งจมูก และหน้าผาก โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง จากนั้น นายธรรศภาคย์ หรือ บี้ เล่าถึงวันเกิดเหตุ ว่า ตนพร้อมนายอนุรักษ์ ไปซ้อมร้องเพลง หลังซ้อมเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งตนเป็นคนขับ ส่วน นายอนุรักษ์ เป็นคนซ้อนท้าย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุกลางซอยลาดพร้าว 23 ได้เจอกับคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คน ขี่ จยย.มาประกบ โบกให้จอด แต่ตนพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่ระหว่างนั้น มีคนร้ายอีก 2 คน ขับ จยย.ตามมาใช้ไม้เบสบอลตีเข้าที่หน้าของตน และตีหลัง นายอนุรักษ์ ก่อนจะลงมาข่มขู่เอาทรัพย์สิน ตนพยายามขัดขืน แต่คนร้ายจะเข้าทำร้ายซ้ำอีก ทำให้นายอนุรักษ์ รีบให้ทรัพย์สินไป จากนั้นก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และในวันนี้ตนกับ นายอนุรักษ์ ก็มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงตำหนิคนร้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสเกตช์ภาพคนร้ายได้ โดยจำได้เพียงว่าคนใช้ไม้ตี ลักษณะอ้วนดำ ใช้รถจักรยานยนต์ รุ่นเวฟ อีกคนผอมเตี้ย ขับฮอนด้า รุ่นคลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายอายุราว 20-25 ปี เหมือนคนติดยาเสพติด

“ตนขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายได้เร็วๆ เพราะยังทราบอีกว่า ก่อนหน้าตนยังมีเหยื่อโดนมาแล้วหลายราย และขอให้ตำรวจออกตรวจตราบริเวณที่เกิดเหตุบ่อยๆ เพราะเป็นที่เปลี่ยว ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ไม่เป็นไรมาก ห่วงเรื่องงาน เพราะต้องรักษาบาดแผลที่ใบหน้ากว่าจะหายคงช้า อาจไปกระทบกับงานแสดง วอนขอให้พวกตนเป็นเหยื่อรายสุดท้าย หากเจ้าหน้าที่สเกตช์ภาพได้ หรือสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ก็จะประสานตนมาชี้ตัวอีกครั้ง” นายธรรศภาคย์ กล่าว

ต่อมาวันเดียวกัน เวลา 14.00 น.พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน สน.พหลโยธิน และ สน.สุทธิสาร ที่คนร้ายก่อเหตุในลุกษณะเดียวกัน และคาดว่า น่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายเดียวกัน เข้าร่วมประชุมที่ สน.พหลโยธิน ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ต.ปัญญา บุญมี สว.สส.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.เสน่ห์ วันทอง สว.สส.สน.สุทธิสาร พร้อมชุดสืบสวน นำขอมูลการสืบสวนเข้าประชุมเพื่อเร่งหาตัวคนร้ายประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้น พ.ต.อ.เจริญ ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 4 คน ขี่ จยย.ใช้อาวุธไม้เบสบอล และมีดชิงทรัพย์ นายธรรศภาคย์ ซี หรือ บี้ เคพีเอ็น และนายอนุรักษ์ บุญเพิ่มพูน หรือ บอม เคพีเอ็น และไช้ไม้เบสบอลตีศีรษะบี้จนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเหตุเกิดที่กลางซอยรัชดา 36 หรือซอยเสือใหญ่ โดยผู้ต้องหาเป็นชายจำนวน 4 คนมีชายร่างอ้วน สูงใหญ่อยู่ในจำนวนนั้น เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.พหลโยธิน ลงพื้นที่สืบหาข่าวทันที เนื่องจากลักษณะการลงมือ จำนวนคนร้าย อาวุธ และรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ลงมือ คาดว่า จะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน จึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน และ สน.สุทธิสาร ลงพื้นที่หากล้องวงจรปิดเพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากที่ได้มายังไม่เพียงพอ ซึ่งหลังจากนี้ จะสอบปากคำพยานเพื่อออกภาพสเกตช์ใบหน้าคนร้ายแล้ว จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังตัว เวลาที่เดินในซอยเปลี่ยวและมืด เพราะอาจถูกคนร้ายลงมือชิงทรัพย์ และหากเกิดการต่อสู้ก็อาจจะถูกทำร้ายร่างกายจนเป็นอันตรายได้

ต่อมาเมื่อประชาชนได้ทราบข่าว ได้มีผู้เสียหายที่เคยถูกชิงทรัพย์ในลักษณะเดียวกัน และจำนวนคนลงมือ รูปร่างหน้าตา อาวุธที่ใช้ก็เหมือนกันด้วย จึงเดินทางมาติดต่อขอแจ้งความอีก จำนวน 3 ราย ในท้องที่ สน.สุทธิสาร โดยคนแรกเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ผู้เสียหาย คือ นายเกียรติคุณ ชาติศรี อายุ 28 ปี อดีตพนักงานสำนักพิมพ์ไทยรัฐ ถูกกลุ่มคนร้ายชิงทรัพย์ภายในซอยวิภาวดี 18 คนร้ายได้โทรศัพท์มือถือโนเกีย 1 เครื่อง และถูกคนร้ายข่มขู่พร้อมกับตบหน้า 1 ครั้ง รายที่สอง เมื่อวันที่ 8 ก.ค.เวลาประมาณ 22.00 น.นายพงษ์ศักดิ์ งามสม อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเซ็นต์จอห์น ก็ถูกกลุ่มคนร้ายชิงทรัพย์ได้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และถูกตีที่ศีรษะอาการปลอดภัย แพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนรายสุดท้าย ที่ซอยลาดพร้าว 23 นายภวนันท์ รัตติญู นักศึกษาแพทย์ รพ.รามา กลุ่มคนร้ายได้โทรศัพท์มือถือและไอแพด อย่างละ 1 เครื่อง