บช.ภ.1 แถลงผลจับกุมเจ้าของไร่มันหนองสรวง ฆ่าโหดลูกน้องในไร่วัย 60 ปี เหตุชอบขโมยแบตเตอรี่รถแบ็กโฮ-รถสิบล้อ และน้ำมันไปขาย จึงใช้อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตาย ก่อนนำศพไปยัดใส่ถังแล้วโบกปูนปิดแล้วไปทิ้งบ่อน้ำกลางไร่เพื่ออำพรางศพ
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.กฤษณะ คุณากร รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายสุพจน์ หรือสอง จำเนียรหล้า อายุ 29 ปี เจ้าของไร่มันใน ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 2 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 1088/2555 ลงวันที่ 2 ก.ค.ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืน พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีเทา ทะเบียน บท-1403 สระบุรี ปืนลูกซองยาวยี่ห้อเรมิงตัน แมกนัม 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 55 นัด กระสุนขนาด .38จำนวน 26 นัด มีดดาบ 1 เล่ม ผ้าขนหนู 1 ผืน และเชือกไนลอนอีก 1 เส้น โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนริมคลอง ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ สภ.วิหารแดง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่าพบศพคนถูกฆ่าตายยัดถังขยะพลาสติกสีดำ สูง 92 ซม.กว้าง 60 ซม. โบกปูนแล้วทิ้งในบ่อน้ำกลางไร่มัน หมู่ที่ 9 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ. สระบุรี จากการตรวจสอบพบถุงพลาสติกและกระสอบมัดด้วยยางในจักรยานยนต์หุ้มอยู่ จากการตรวจสอบพบศพชายผิวขาว สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงลายดอก ถูกห่อด้วยผ้าห่มสีเขียวและถูกเททับด้วยปูนซีเมนต์ จากการชันสูตรทราบว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ จากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล จนทราบว่าศพที่ถูกฆ่าโบกปูนดังกล่าว คือ นายเปล่งปั๊ก แซ่อึ้ง อายุ 60 ปี ชาว จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นลูกน้องในไร่มันของนายสุพจน์ โดยเพื่อนผู้ตายได้ให้เบาะแสจากพระที่ผู้ตายใส่ห้อยคอไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ประสานกรมการปกครองเพื่อหาประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือที่นายเปล่งปั๊กเคยทำบัตรประชาชนไว้มาเปรียบเทียบจนทราบว่าศพดังกล่าวคือนายเปล่งปั๊กจริง
พล.ต.ท.วินัยกล่าวต่อว่า จากการสืบสวนทราบว่า นายเป่งปั๊ก ทำงานเป็นลูกน้องในไร่มันตั้งแต่รุ่นบิดาของ นายสุพจน์ จนมาถึงรุ่นนายสุพจน์ และมักมีปากเสียงกันเป็นประจำ เพราะนายสุพจน์จับได้ว่าผู้ตายชอบขโมยแบตเตอรี่รถแบ็กโฮ และรถสิบล้อ และน้ำมันไปขายเป็นประจำ สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่ศีรษะและลำตัวหลายนัดจนถึงแก่ความตายและนำศพไปยัดใส่ถังขยะพลาสติกแล้วนำปูนไปโบกทับเพื่ออำพรางศพ จากนั้นนำไปทิ้งบ่อน้ำในไร่มันที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่ดินของอาผู้ต้องหา จึงรวบรวมหลักฐานก่อนเสนอศาลออกหมายจับและตามจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนนายสุพจน์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานมัดตัวนายสุพจน์แน่นหนา ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานซึ่งเป็นลูกน้องนายสุพจน์ที่ร่วมกันโบกปูนทับศพนายเปล่งปั๊ก จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สภ.วิหารแดง ดำเนินคดีต่อไป