แล้วชื่อ พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ก็เลือนหายไปจากสังคมสุจริตชน
เป็นธรรมชาติของคนไทย “ลืมง่าย” และไม่ใส่ใจกับเรื่อง “ไกลตัว”
ทั้ง ๆ พ.ต.อ.พิจิตร เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตำแหน่งผู้กำกับการหัวหน้าโรงพัก มีหน้าที่ปราบปรามโจรผู้ร้าย ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
แต่กลับมาเป็น “โจร” เสียเอง
พ.ต.อ.พิจิตรทิ้งโรงพักที่กำแพงเพชร มากำกับการปล้นรถขนเงินที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยที่ขณะนั้น รอง ผกก.ป. และ รอง ผกก.สส. เข้าอบรมหลักสูตร ผกก.ทั้งสองนาย
จึงไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของโรงพักอยู่ในโรงพัก อะไรจะเกิดขึ้นในท้องที่ของตน ก็ช่างแม่มัน ตำรวจโจรเท่านั้นที่คิดอย่างนี้ได้
ไม่มีคำตอบจาก พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผบก.กำแพงเพชร พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 หรือแม้กระทั่ง พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ที่กำกับดูแลตำรวจภูธร 6
เหมือนกับจะให้วันเวลา กลบความอัปยศจนหมดสิ้น
ไม่มีใครรับผิดชอบ และไม่มีผู้บังคับบัญชาตามลำดับของ พ.ต.อ.พิจิตร ต้องรับความผิดจากการปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา
รู้ทั้งรู้ พ.ต.อ.พิจิตรทะยานขึ้นเป็น ผกก.ในวาระพิเศษ ด้วยวิธีใด
ดูดู้ดู.....มันทำระยำกับประชาชนได้
ตำรวจโจรยังไม่สูญพันธุ์ มารสังคมในเครื่องแบบยังโผล่ออกมาให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เพิ่มจำนวนตำรวจโจรอีกคน
มันชื่อ ด.ต.วัฒนา ฉางทรัพย์ ผู้บังคับหมู่สายป้องกันปราบปราม สน.ประชาชื่น กับลูกน้องพลเรือนนามสกุลคุ้นหู นายอาทิตย์ อสุนี ณ อยุธยา
ออกล่าเหยื่อตอนกลางคืน ไปชิงทรัพย์นายทุนเงินกู้ชาวอินเดีย ในซอยรามคำแหง 106 แยก 2 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง
ด.ต.วัฒนาใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ ไปดักรอนายทุนเงินกู้ชาวอินเดีย ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา เรียกให้จอดแล้วอ้างตัวเองเป็นตำรวจ 191
นายอาทิตย์ใช้กระบองฟาดหัวเหยื่อล้มคว่ำ ล้วงเงินในกระเป๋ากางเกงแล้วเผ่นหนี
เจ้าทุกข์โทร.แจ้งตำรวจวังทองหลาง แล้วบึ่งรถไปทันกันในซอยรามคำแหง 43 / 1
ตำรวจโจรกับลูกน้องจนมุมสายตรวจวังทองหลาง เพราะมอเตอร์ไซค์ไปชนรถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง ตำรวจโจรสารภาพล่าเหยื่อแบบนี้มา 4 ครั้งแล้ว มั่นใจว่านายทุนเงินกู้ไม่กล้าแจ้งความ เพราะเป็นเงินกู้นอกระบบ ทำลายเศรษฐกิจระดับรากหญ้า พังพินาศมานักต่อนัก
ตามตลาดสดใหญ่ ๆ จะมีชาวอินเดียไปปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพง ให้แก่พ่อค้าแม่ค้า
พอช่วงบ่าย ก็ไปเก็บดอกเบี้ย และหาลูกค้ารายใหม่
ที่ตลาดคลองเตยก็มี ตำรวจก็รู้
อินเดียร่างใหญ่กับเมียคนไทยไปเดินเก็บดอก ชายคนหนึ่งเดินมาหา อินเดียส่งเงินให้ 100 บาท เป็นอย่างนี้ทุกวัน
แม้ชายคนนั้นจะแต่งกายนอกเครื่องแบบ แต่ก็ไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร
ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งในช่วงรัฐบาลทักษิณ มีการปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่ก็คึกคักชั่วระยะหนึ่ง เหมือนดอกไม้ชูช่อตอนเช้า พอตกสายก็เหี่ยวเฉาโรยรา
วงจรอุบาทว์จึงกลับเข้าสู่สภาวะเดิม
ตำรวจโจรยังสวมเครื่องแบบลอยหน้าลอยนวลอีกเยอะแยะ
พวกมึงเก่งแต่ปล้นประชาชน ทำไมไม่ไปปล้นบ้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ บ้างละ.
เป็นธรรมชาติของคนไทย “ลืมง่าย” และไม่ใส่ใจกับเรื่อง “ไกลตัว”
ทั้ง ๆ พ.ต.อ.พิจิตร เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตำแหน่งผู้กำกับการหัวหน้าโรงพัก มีหน้าที่ปราบปรามโจรผู้ร้าย ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
แต่กลับมาเป็น “โจร” เสียเอง
พ.ต.อ.พิจิตรทิ้งโรงพักที่กำแพงเพชร มากำกับการปล้นรถขนเงินที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยที่ขณะนั้น รอง ผกก.ป. และ รอง ผกก.สส. เข้าอบรมหลักสูตร ผกก.ทั้งสองนาย
จึงไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของโรงพักอยู่ในโรงพัก อะไรจะเกิดขึ้นในท้องที่ของตน ก็ช่างแม่มัน ตำรวจโจรเท่านั้นที่คิดอย่างนี้ได้
ไม่มีคำตอบจาก พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผบก.กำแพงเพชร พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 หรือแม้กระทั่ง พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.ที่กำกับดูแลตำรวจภูธร 6
เหมือนกับจะให้วันเวลา กลบความอัปยศจนหมดสิ้น
ไม่มีใครรับผิดชอบ และไม่มีผู้บังคับบัญชาตามลำดับของ พ.ต.อ.พิจิตร ต้องรับความผิดจากการปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา
รู้ทั้งรู้ พ.ต.อ.พิจิตรทะยานขึ้นเป็น ผกก.ในวาระพิเศษ ด้วยวิธีใด
ดูดู้ดู.....มันทำระยำกับประชาชนได้
ตำรวจโจรยังไม่สูญพันธุ์ มารสังคมในเครื่องแบบยังโผล่ออกมาให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เพิ่มจำนวนตำรวจโจรอีกคน
มันชื่อ ด.ต.วัฒนา ฉางทรัพย์ ผู้บังคับหมู่สายป้องกันปราบปราม สน.ประชาชื่น กับลูกน้องพลเรือนนามสกุลคุ้นหู นายอาทิตย์ อสุนี ณ อยุธยา
ออกล่าเหยื่อตอนกลางคืน ไปชิงทรัพย์นายทุนเงินกู้ชาวอินเดีย ในซอยรามคำแหง 106 แยก 2 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง
ด.ต.วัฒนาใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ ไปดักรอนายทุนเงินกู้ชาวอินเดีย ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา เรียกให้จอดแล้วอ้างตัวเองเป็นตำรวจ 191
นายอาทิตย์ใช้กระบองฟาดหัวเหยื่อล้มคว่ำ ล้วงเงินในกระเป๋ากางเกงแล้วเผ่นหนี
เจ้าทุกข์โทร.แจ้งตำรวจวังทองหลาง แล้วบึ่งรถไปทันกันในซอยรามคำแหง 43 / 1
ตำรวจโจรกับลูกน้องจนมุมสายตรวจวังทองหลาง เพราะมอเตอร์ไซค์ไปชนรถเข็นขายลูกชิ้นปิ้ง ตำรวจโจรสารภาพล่าเหยื่อแบบนี้มา 4 ครั้งแล้ว มั่นใจว่านายทุนเงินกู้ไม่กล้าแจ้งความ เพราะเป็นเงินกู้นอกระบบ ทำลายเศรษฐกิจระดับรากหญ้า พังพินาศมานักต่อนัก
ตามตลาดสดใหญ่ ๆ จะมีชาวอินเดียไปปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพง ให้แก่พ่อค้าแม่ค้า
พอช่วงบ่าย ก็ไปเก็บดอกเบี้ย และหาลูกค้ารายใหม่
ที่ตลาดคลองเตยก็มี ตำรวจก็รู้
อินเดียร่างใหญ่กับเมียคนไทยไปเดินเก็บดอก ชายคนหนึ่งเดินมาหา อินเดียส่งเงินให้ 100 บาท เป็นอย่างนี้ทุกวัน
แม้ชายคนนั้นจะแต่งกายนอกเครื่องแบบ แต่ก็ไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร
ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งในช่วงรัฐบาลทักษิณ มีการปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่ก็คึกคักชั่วระยะหนึ่ง เหมือนดอกไม้ชูช่อตอนเช้า พอตกสายก็เหี่ยวเฉาโรยรา
วงจรอุบาทว์จึงกลับเข้าสู่สภาวะเดิม
ตำรวจโจรยังสวมเครื่องแบบลอยหน้าลอยนวลอีกเยอะแยะ
พวกมึงเก่งแต่ปล้นประชาชน ทำไมไม่ไปปล้นบ้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ บ้างละ.