เจ้าของบ่อปลาเหมือนพุดวัย 80 ปี โรคชรารุมเร้าตัดสินใจแก้ปัญหา ใช้ปืนลูกซองยิงกลางอกทะลุหลัง 7 รู เสียชีวิตภายในบ้านพักย่านลาดพร้าว จากการสอบสวนบุตรชายเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคความดันและแข้งขาไม่ดี เดินเหินไม่สะดวก จึงน่าจะเป็นสาเหตุตัดสินใจฆ่าตัวตาย
วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.วราวุธ หนูชู พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตายภายในบ้านเลขที่ 7/10 หมู่ 4 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ. เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม สว.สส.สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรรพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามซอยนาคนิวาส 53 เนื้อที่กว่า 16 ไร่ เปิดเป็นบ่อปลาชื่อ “บ่อปลาเหมือนพุด” ภายในบ้านไม้ 2 ชั้น ที่ห้องนอนชั้น 2 บนเตียงนอนพบศพนายสุชิน เหมือนพุด อายุ 80 ปี เจ้าของบ้านและบ่อปลาเหมือนพุด นอนจมกองเลือด สภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงเลสีน้ำเงิน สภาพนอนหงาย ใกล้กันมีปืนลูกซองยาววางไว้ที่หว่างขา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดดังกล่าวเข้าที่กลางหน้าอก กระสุนทะลุออกหลังจำนวน 7 รู เบื้องต้นไม่พบร่องรอยรื้อค้นหรือต่อสู้ และจดหมายลาตายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนนายเชาวลิต เหมือนพุด อายุ 44 ปี ลูกชายให้การว่า ตนพักอาศัยอยู่กับผู้ตาย แต่บ้านคนละหลังกัน มีอาชีพขับรถรับจ้างในซอยนาคนิวาส โดยเมื่อช่วงเช้าตรู่เห็นทางผู้ตายยังลงมานั่งที่ชานบ้านเป็นประจำเหมือนทุกวัน และก็คุยกับคนใช้เป็นปกติ จากนั้นตนไปอาบน้ำและออกมาเพื่อจะกินข้าวแต่ไม่เห็นพ่อ ตามหาทั่วบ้านก็ไม่พบจึงขึ้นไปที่ห้องเห็นพ่อเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งจ้าหน้าที่ทันที โดยตนไม่ได้ยินเสียงปืนแต่อย่างใด ที่ผ่านมาบิดาป่วยด้วยโรคความดันและแข้งขาไม่ค่อยดีทำให้เดินเหินไม่สะดวก
พ.ต.อ.เศรษฐศักดิ์เปิดเผยว่า สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะเกิดความเครียดจึงคิดสั้นใช้ปืนของตัวเองที่เก็บอยู่ในห้องมาลงมือก่อเหตุดังกล่าว เพราะจากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานพบว่ากระสุนพุ่งขึ้นไปบนฝ้า คาดว่าผู้ตายน่าจะเอาปืนวางไว้ที่หว่างขาและลั่นไก แต่เจ้าหน้าที่ยังหาสาเหตุไม่พบ อย่างไรก็ตาม มีเบาะแสพบว่าเดือนที่ผ่านมาผู้ตายเพิ่งจะขายที่ดินบ่อปลาบริเวณจุดเกิดเหตุจำนวน 8 ไร่ มูลค่ากว่า 320 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้แบ่งใคร และก่อนหน้านี้ก็ขายที่แห่งหนึ่งจำนวน 300 ล้านบาท และแบ่งให้ลูกทั้ง 4 คน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำญาติและผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะส่งศพไปตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตและหาสาเหตุการลงมือดังกล่าวต่อไป