หนุ่มใหญ่ชะตาขาด ขับมอเตอร์ไซค์ตราโล่ย้อนศร ถูกกระบะฟอร์จูนเนอร์ชนเต็มแรงแยกวังหิน ในพื้นที่ สน.โคกครามเสียชีวิตคาที่ จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่งงขับขี่รถตำรวจได้อย่างไร ส่วนเจ้าของกระบะคันเกิดเหตุยืนรอให้การเจ้าหน้าที่
วันนี้ (1 ก.ค.) ร.ต.อ.สถิตย์ นิตยวัน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โคกคราม ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต บริเวณตอม่อที่ 59 ถนนเกษตร-นวมินทร์ฝั่งขาออก แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุ เป็นถนนสี่เลนอยู่ห่างจากสี่แยกวังหินประมาณ 200 เมตร ที่เกาะกลางถนนตรงตอม่อที่ 59 พบศพ นายเตียม พุทธาคำ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/1 หมู่7 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด แต่งกายคล้ายตำรวจ สวมเสื้อคลุมสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีขาว มีสกรีนคำว่าตำรวจ กางเกงสแลกสีกากี มีบาดแผลแตกที่ศีรษะ และข้อเท้าขวาฉีกจนเห็นกระดูก ใกล้กันประมาณ 100 เมตรที่เลนขวา พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌฟ 2845 กรุงเทพมหานคร หน้ารถด้านขวาชนติดอยู่กับเกาะกลางสภาพกระโปรงรถยุบ มีนายอนุชา เชยชื่น อายุ 29 ปี เจ้าของรถ อยู่บ้านเลขที่ 111/207 หมู่ 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ นอกจากนี้ ที่หน้ารถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ยังพบรถจักรยานยนต์แบบผู้ชาย ทะเบียนตราโล่ 52329 ล้มอยู่ที่พื้น และเกิดไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน
ร.ต.อ.สถิตย์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายอนุชาให้การว่า เป็นพนักงานขับรถให้แก่เจ้าของบริษัทรับส่งสินค้าแห่งหนึ่ง กำลังจะไปรับเจ้านายที่ย่านเอกมัย พอขับมาถึงแยกวังหินเป็นจังหวะไฟเขียวพอดีก็ขับเลนขวามาเรื่อยๆ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า รถของนายเตียมได้ขี่ย้อนศรมาที่เลนขวาที่ตนวิ่งอยู่ด้วยความเร็วทำให้เบรกไม่ทันชนเข้ากันอย่างจัง จนร่างนายเตียมกระเด็นขึ้นไปอยู่เกาะกลาง แล้วรถตนก็ลากรถของนายเตียมไปไกลอีกเกือบ 100 เมตรจนรถของตนเสียหลักชนเกาะกลางรถจึงหยุด จากนั้น รถของนายเตียมก็เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และเสียหายหมดทั้งคัน
สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ต่างระบุว่า เห็นนายเตียมขี่รถออกมาจากซอยประเสริฐมนูกิจ 9 ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แล้วขี่ย้อนศรขึ้นมาจนทำให้ไปชนกับรถของนายอนุชา ทำให้นายเตียมเสียชีวิตคาที่ จากนั้น รถของนายอนุชาก็ลากรถจักรยานยนต์ตราโล่ของนายเตียมไปไกล และเกิดเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน
ร.ต.อ.สถิตย์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายเตียมไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแต่งกายคล้ายตำรวจ และขี่รถจักรยานยนต์ตราโล่อีกด้วย ในส่วนตรงนี้จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่า รถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นของใคร และเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบประวัตินายเตียมอย่างละเอียดอีกครั้งด้วยว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ และนำรถตราโล่มาใช้ได้อย่างไร เพราะจากการตรวจสอบเอกสารภายในตัวนายเตียมไม่พบบัตรข้าราชการ มีเพียงใบขับขี่อย่างเดียวเท่านั้น
เบื้องต้น จึงยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับใครได้ว่าใครผิดใครถูก จึงต้องสอบปากคำพยานอีกครั้ง แต่หากเกิดจากความประมาทของนายอนุชา ก็จะต้องถูกดำเนินคดีขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย