กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลกวาดล้างคดีอาชญากรรมระหว่างวันที่ 23-27 มิ.ย. ตามนโยบายสตช.จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 1,652 คน พร้อมของกลางอาวุธ 224 กระบอก และยาเสพติดอีกเกือบ 5 หมื่นเม็ด รรท.ผบช.ภ.1 พอใจผลงานยันไม่ปรับย้ายกำลังพล พร้อมนำโครงการ “อันฟอร์เก็ต” จับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่ามาใช้
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง รรท.ผบช.ภ.1 แถลงผลการระดมกวาดล้างคดีอาชญากรรมในพื้นที่ บช.ภ.1 ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 1,652 คน แบ่งเป็นผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน 245 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 224 กระบอก มีทะเบียน 100 กระบอก ไม่มีทะเบียน 124 กระบอก และเครื่องกระสุนทั้งหมด 1,480 นัด คดียาเสพติด 976 คน พร้อมยาบ้า 44,868 เม็ด, ยาไอซ์ 252 กรัม, กัญชา 29.5 กิโลกรัม, พืชกระท่อม 16.8 กิโลกรัม คดีค้างเก่าตามหมายจับ 40 คน และจับกุมการพนันได้ 391 คน
พล.ต.ท.วินัย เปิดเผยว่า จากผลการจับกุมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะเพียงแค่ 5 วัน สามารถจับกุมอาวุธปืนเถื่อนได้ถึง 124 กระบอก และเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมได้ ส่วนอาวุธปืนที่มีทะเบียนจะตรวจสอบว่าเคยนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่ หากพบก็จะมีการเพิกถอนใบอนุญาต โดยหลังจากนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เน้นปราบปรามอาวุธปืนและคดียาเสพติด 5 จังหวัด ได้แก่ อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และลพบุรี เพื่อให้อาชญากรรมลดน้อยลง
พล.ต.ท.วินัย กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับย้ายตำแหน่งกำลังพล เพราะตนเองสามารถทำงานได้กับทุกคน นอกจากนี้จะนำโครงการ “อันฟอร์เก็ต” จับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่ามาปรับใช้ในพื้นที่ภาค 1 เพราะเห็นว่าใช้ได้ผลในพื้นที่นครบาลมาแล้ว ทำให้เป็นการกวาดล้างคดีลักทรัพย์ในบ้านเราให้หมดไป