xs
xsm
sm
md
lg

ดาบปืนโหดยิงสามีชู้รัก 3 นัดดับอนาถ มอบตัว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ด.ต.สามารถ เพนเทศ  ผบ. หมู่ กก.ปพ.บก.ป.
ดาบตำรวจกองปราบปืนโหด ก่อเหตุยิงสามีชู้รัก 3 นัดดับอนาถ เหตุหึงหวงเห็นภาพคนรักใคร่ชอบคอร่ำสุราอยู่กับสามีอย่างมีความสุข ทั้งที่ตัวเองยอมลงทุนควักกระเป๋าให้ทำธุรกิจ เข้ามอบตัวนครบาลหลังถูกศาลออกหมายจับ แต่ยังให้การปฏิเสธอ้างไม่รู้ไม่เห็น ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 04.20 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการถูกอาวุธปืนยิงบริเวณกลางซอยพระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 52/5 ซ.พระราม 2 แยก 30 พบกองเลือดและสามารถยึดปลอกกระสุนปืนของกลางขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอกในที่เกิดเหตุ โดยผู้ถูกยิงเสียชีวิตทราบชื่อต่อมา คือ นายเอกอนันต์ ลิ้มสกุล อายุ 40 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกขวา 1 นัด และบริเวณท้องอีก 2 นัด ส่งรักษาตัวที่ รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ด.ต.สามารถ เพนเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจใน ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป.เป็นผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้ โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว

วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่กองบัญชการตำรวจนครบาล ด.ต.สามารถ เพนเทศ ได้เดินทางมามอบตัวต่อ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. หลังก่อเหตุยิงนายเอกอนันต์เสียชีวิตก่อนหลบหนีไป โดย พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวว่า ด.ต.สามารถได้รักใคร่ชอบพอกับนางเกศรินทร์ พูลทวี ซึ่งเป็นญาติห่างๆ กัน และจะเปิดกิจการร้านอาหารและกาแฟสดให้ แต่ทางด้านนางเกศรินทร์นั้นได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับนายเอกอนันต์ ผู้ตายมา 4 ปีแล้ว จึงทำให้เกิดความหึงหวงและมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง

พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายเอกอนันต์และนางเกศรินทร์ได้นั่งดื่มสุราและดูฟุตบอลอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ ต่อมา ด.ต.สามารถได้ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ หมายเลขทะเบียน ภภ-5084 กทม.มาจอดหน้าบ้านและลงมาชี้หน้าต่อว่านางเกศรินทร์ในลักษณะหึงหวง จนกระทั่งเกิดมีปากเสียงกับนายเอกอนันต์ จากนั้น ด.ต.ได้บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ยิงเข้าใส่นายเอกอนันต์แล้วหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับ ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 365/2555 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2555 เพื่อดำเนินการจับกุม

พล.ต.ต.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น ด.ต.สามารถทราบว่าตัวเองได้ถูกออกหมายจับแล้ว จึงได้ประสานกับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเพื่อขอมอบตัวที่ บช.น. อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าไม่รู้ไม่เห็นในเหตุการณ์และขอให้การต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น