ศาลอาญาประทับรับฟ้องคดีที่ รมว.ต่างประเทศ เป็นโจกท์ยื่นฟ้องโฆษก ปชป.หมิ่นประมาท โดยให้สัมภาษณ์ว่าให้ นายอัษฎา ชัยนาม ออกจากประธานเจบีซี และให้นายวีรชัย พลาศรัย ออกจากกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อเอื้อประโยชน์ล้วนเป็นเท็จ นัดตรวจพยานหลักฐาน 27 ส.ค.
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ เป็นโจทก์ฟ้อง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ 1 บริษัท เอ็นเคที นิวส์ จำกัด ที่ 2 นายจักรกฤษ เพิ่มพูน ที่ 3 น.ส.นิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ ที่ 4 บริษัท เอ็นเอสที นิวส์ จำกัด ที่ 5 และนายเฉลียงคงตุก ที่ 6 ร่วมกันเป็นจำเลย 1-6ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. 2554 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า โจทก์ซึ่งเป็น รมว.ต่างประเทศ ได้ให้ นายอัษฎา ชัยนาม ออกจากประธานเจบีซี และให้นายวีรชัย พลาศรัย ออกจากกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อเอื้อประโยชน์ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ แก่ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ที่ 2 โดยมีจำเลยที่ 3 เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา และจำเลยที่ 4 เป็น บรรณาธิการข่าวการเมือง รวมทั้ง นสพ.คม ชัด ลึก จำเลยที่ 5 โดยมีจำเลยที่ 6 เป็น บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา และมีการตีพิมพ์ลงใน นสพ.ทั้ง 2 ฉบับ ทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.และที่อื่นเกี่ยวพันกันเหตุ
โดยศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีดำ อ.4990/2554 และนัดตรวจพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่ายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
