หนุ่มทะเลาะภรรยาจับลูกสาววัย 2 ขวบครึ่งขู่จะกระโดดตึก สาเหตุภรรยาจะแย่งเอาลูกสาวไปเลี้ยง ตำรวจต้องให้นักข่าวเข้าเกลี้ยกล่อมนานกว่า 2 ชม.จึงยอมปล่อยตัว
วันนี้ (22 มิ.ย.) พ.ต.ท.วัชรวิชญ์ นิธิวรวัชย์ สวป.สภ.เมืองนนทบุรี กำลังออกตรวจพื้นที่อยู่นั้นได้รับแจ้งเหตุ ชายคลุ้มคลั่งจับเด็กเป็นตัวประกันภายในอาคารเสรีภาพคอนโด ซ.งามวงศ์วาน 23 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดพร้อมด้วยพ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง.ผกก.ปป.และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณระเบียงลานจอดรถชั้น 2 ของอาคารดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบนายสุวิชา บุญประสงค์ อายุ 32 ปี อาชีพรับจ้างเดินสายไฟกำลังอุ้มน้องเอย ลูกสาววัย 2 ขวบครึ่ง นั่งออกมานอกระเบียง พร้อมทั้งตะโกนด่าทอภรรยาว่าจะไม่ยอมให้น้องเอยไปอยู่กับภรรยาเป็นอันขาด และหากต้องแยกจากกันก็จะขอตายพร้อมกับลูกสาว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำเบาะลมมากลางเพื่อป้องกันการกระโดดลงมาและพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายสุวิชาปล่อยตัวลูกสาวออกมาก่อนนานกว่า 1 ชม.ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
โดยนายสุวิชามีอาการระแวงตลอดเวลาว่าหากปล่อยตัวลูกสาวแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมตน และภรรยาก็จะมาเอาลูกไป จึงไม่ยอมปล่อยตัวน้องเอย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้น.ส.ชนิดา บุญประสงค์ อายุ 34 ปี พี่สาวของนายสุวิชาเข้ามาเกลี้ยกล่อมซึ่งนายสุวิชายินยอมให้พี่สาวเข้ามาใกล้ตนได้เพียงคนเดียว ก่อนจะบอกกับพี่สาวว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวที่มาทำข่าวกลับไปให้หมด และให้ไล่ภรรยาของตนกลับไปด้วยจึงจะยอมปล่อยตัวน้องเอย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอร้องให้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกจากพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงพาตัวภรรยาของนายสุวิชาขึ้นรถตำรวจไป นายสุวิชาจึงมีท่าทีที่อ่อนลงและยอมเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินคดีกับตนเอง พร้อมทั้งขอให้นักข่าวเป็นคนขับรถไปส่งตนเองกับลูกและพี่สาวที่บ้านญาติใน อ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งนักข่าวขึ้นไปพบก่อนจะพาตัวทั้ง 3 คนลงมาและขึ้นรถนักข่าวขับออกไปตามที่นายสุวิชาต้องการ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อคุยกับนายสุวิชาให้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ เพื่อลงบันทึกทำประวัติและตรวจหาสารเสพติด หากไม่พบก็จะทำการตักเตือนซึ่งนายสุวิชาก็ยินยอมเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.ชาญศิริกล่าวว่า เบื้องต้นไม่ได้ดำเนินคดีกับนายสุวิชาแต่อย่างใด เนื่องจากนายสุวิชามีอาการเครียดจากการทะเลาะกับภรรยาและไม่ได้ทำร้ายใครรวมถึงน้องเอยลูกสาวด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำประวัติญาติสนิทของนายสุวิชาอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำสอง ร่วมถึงตรวจหาสารเสพติดในร่างกายตามที่นายสุวิชาร้องขอว่าที่ทำไปไม่ได้เป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติดแต่อย่างใด ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้าน