สน.ลาดพร้าวควบคุมตัว “อาฟ วงค์ษาสืบ” ผู้ต้องหาพร้อมพวกที่ยังหลบหนี ก่อเหตุรุมทำร้ายและยิงดาบตำรวจ สน.หัวหมากได้รับบาดเจ็บภายในร้านอาหารในซอยลาดพร้าว 130 ขออำนาจศาลฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว เกรงผู้ต้องหาหลบหนี
วันนี้ (21 มิ.ย.) ร.ต.อ.พงษ์เดช ชูสงค์ พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าวคุมตัว นายทรงศักดิ์ หรืออาฟ วงค์ษาสืบ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 341/128 ซอยเคหะร่มเกล้า 31 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ผู้ต้องหาคดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร มาฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. - 2 ก.ค. 2555
คำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2555 เวลา 06.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.มนเดช มาแนม ร้อยเวรสอบสวน สน.ลาดพร้าวกำลังปฏิบัติหน้าที่ก็ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันบริเวณริมถนนภายในซอยลาดพร้าว 130 หน้าร้านอาหารโดน แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบคราบโลหิตอยู่บริเวณทางเท้า จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.ศักดิ์ชัย ชูชื่น ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก กับพวกได้มานั่งรับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าว ต่อมาหลังจากร้านปิดได้ออกมายังบริเวณหน้าร้านและมีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น จากนั้นนายทรงศักดิ์ ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนยิง ด.ต.ศักดิ์ชัยจนล้มลง และมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปรุมทำร้าย ระหว่างนั้นนายสุวิทย์ วงษ์ลี ได้ใช้อาวุธปืนตามเข้ามายิงและกระทืบซ้ำเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวต่อศาลอาญา
กระทั่งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2555 เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายทรงศักดิ์ ผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และได้นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.80, 83, 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุน พ.ศ. 2490
พนักงานสอบสวนระบุท้ายคำร้องว่า ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือ หัวกระสุนปืน อาวุธปืน และสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก จึงขอฝากขังไว้ระหว่างการสอบสวน และหากผู้ต้องหายื่นขอประกันตัว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง
