ผบ.ตร.เผยมีติวเตอร์ร่วมขบวนการทุจริตสอบตำรวจด้วย แต่ยังไม่ชัดว่าเป็นติวเตอร์หน้า ม.รามฯ อยู่ระหว่างสืบสวน ชี้กรณีปลอมบัตร ปชช.เข้าสอบแทนเป็นคนละกลุ่ม กร้าวจะล้างบางขบวนการนี้ให้หมดสิ้น
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการทุจริตสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกที่จบวุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่าเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นได้มอบหมาย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. เข้าไปควบคุมหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนในส่วนกลาง และมอบให้ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวน (ผบก.บก.สส.) ทุกภาคจัดชุดสืบสวนออกมาให้สัมพันธ์กัน โดยการสืบสวนจะไม่เน้นที่ผู้เข้าสอบ แต่มุ่งเน้นเอาผิดขบวนการทุจริตให้ได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้พบผู้กระทำความผิดครอบคลุมทั่วทุกภาค รวมทั้ง ขบวนการดังกล่าวได้ทำกันมานานแล้ว โดยจะไปทุกสนามสอบทั่วประเทศและจะมีทีมงานประมาณ 15-20 คนต่อทีม แบ่งกันทำหน้าที่ต่างๆ ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่เข้าไปทำหน้าที่สอบแล้วส่งรหัสออกมายังทีมงานที่อยู่ด้านนอกจากนั้นทีมงานด้านนอกจะส่งคำตอบไปที่ผู้สมัครสอบอีกที ซึ่งน่าเป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด มีเครือข่ายทั่วประเทศ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า ขบวนการดังกล่าวคาดว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ และมีติวเตอร์อยู่ในขบวนการนี้ด้วย ซึ่งอาจทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้สมัครกับทีมงานทุจริตกลุ่มนี้ โดยติวเตอร์นั้นจะบอกวิธีการต่างๆ กับผู้สมัครเพื่อมาสอบโดยวิธีการโกงข้อสอบ ส่วนการปลอมแปลงบัตรประชาชนแล้วเข้าสอบแทนผู้สมัครสอบตัวจริงนั้น ซึ่งจับกุมได้ที่หน่วยสอบ บช.ภ.9 คาดว่าน่าจะเป็นคนละกลุ่มกัน คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ทำกันเอง และไม่ใช่เป็นกลุ่มเดียวกัน
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนจะเกี่ยวกับติวเตอร์หน้า ม.รามคำแหงนั้น กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ ถ้าสามารถตรวจสอบถึงใครได้ก็จะล้างขบวนการนี้ให้หมด เพราะพวกนี้สร้างความเสียหายให้แก่ทุกวงการทำให้ได้คนที่ไม่ดีเข้ามาทำงาน ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะแค่สอบเข้าข้าราชการตำรวจเท่านั้น แต่ยังมีการโกงสอบของหน่วยงานราชการอีกหลายแห่ง ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังไม่มีหลักฐานชัดเจน สำหรับอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณหาซื้อได้ง่ายทั่วไปตามบ้านหม้อ ซึ่งร้านก็มีสิทธิ์ขายไม่น่าผิดอะไร แต่กลุ่มพวกนี้เอามาใช้ผิด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีข้อสอบรั่วออกไปก่อนสอบแน่นอน
“ส่วน ด.ต.สังกัด สภ.เมืองศรีสะเกษ ที่แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วก็เป็นเพียงหนึ่งในเครือข่ายที่ร่วมกับพลเรือน ยังสอบสวนอยู่ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการสอบใหม่ได้เตรียมไปควบคู่กับการสืบสวนสอบสวนการทุจริต เมื่อสามารถสรุปผลการทุจริตได้เมื่อไหร่ก็จบ รวมทั้งดำเนินการสอบใหม่ได้ทันที นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริตซ้ำอีกได้มอบให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. วางมาตรการให้รัดกุมและเป็นธรรมที่สุด เพื่อป้องกันการทุจริตสอบ