ป.จับโจรหัวโบราณตระเวนลักทรัพย์ทั่วไทยใส่ไหฝังดิน!

กองปราบจับ 2 โจรเที่ยวตระเวนขับรถก่อคดีลักทรัพย์ไปทั่วไทย ทั้งภาคกลาง อีสาน ใต้ ยึดกระบะ 2 คัน อาวุธปืน พระเครื่อง สร้อยทอง แหวนเพชร เงินสดอีก 8 หมื่นบาท หลังตามจับได้ที่ จ.สุพรรณบุรี พบก่อคดีลักทรัพย์รวมกว่า 30 คดี ขณะที่ผู้ต้องหารับร่วมกันก่อเหตุมา 9 คดี ทรัพย์สินที่ได้จะนำมาแบ่งกัน บางส่วนเอาไปใส่ไหฝังดิน เมื่อต้องการเงินจึงขุดขึ้นมาขายนำไปเล่นพนันและเที่ยวเตร่

วันนี้ (24 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.อภิชัย ธิอามาตย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1 บก.ป.และ พ.ต.ท.พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน สว.กก.1 บก.ป. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายศักดิ์ดา เส็งรอดรัด หรือดา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 5 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี และนายเศกสรรค์ นาคบุตร หรือ หนุ่ม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/3 หมู่ 7 ต.บางพรหม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม พร้อมของกลางได้หลายรายการ ได้แก่ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นโคโลราโด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒก 8271 กทม. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒค 5860 กทม.อาวุธปืนสั้น ยี่ห้อซิกเซาเออร์ ขนาด 9 มม. เลขประจำปืน S 012515 ไม่ทราบทะเบียน 1 กระบอก พระเครื่องล้อมเพชร สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร สร้อยข้อมือ เงินสด 80,000 บาท และพระเครื่องอีกหลายร้อยองค์ซึ่งผู้ต้องหาใส่ไหฝังดินเอาไว้ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่หน้าปากซอยทุ่งนาหนู 1 ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป.ได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาคดีค้างเก่าพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองเคยร่วมกันก่อคดีลักทรัพย์ สำนักงาน “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จำกัด เลขที่ 7/7 หมู่ 8 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และโรงงานอินเตอร์เทค เอนจิ-เนียริ่ง จำกัด ตั้งอยู่บริเวณถนนเลียบคลองห้า อ.คลอง หลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2553 ต่อมาถูกตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมตัวได้ แต่ระหว่างถูกดำเนินคดีได้รับการประกันตัวและหลบหนีคดีไป

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวต่อว่า ระหว่างหลบหนีคดีผู้ต้องหาทั้งสองตกเป็นผู้ต้องสงสัยลักทรัพย์ในบ้านพัก และร้านสะดวกซื้อรวมแล้วกว่า 30 คดี เช่น คดีลักทรัพย์ร้านประดับพลอย เลขที่ 206/12 ซ.2 ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง โดยงัดตู้เซฟขโมยทรัพย์สินไปหลายแสนบาท เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมาจึงออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาได้จากบ้านญาติใน จ.สุพรรณบุรี พร้อมยึดของกลางที่ได้จากการกระทำผิดอีกหลายรายการ

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า เคยร่วมกันลักทรัพย์ 9 คดี คือ 1.ลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 2.ร้านสะดวกซื้อ อ.หลังสวน จ.ชุมพร 3.ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว คลองห้า อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 4.ร้านถ่ายรูป อ.เมือง จ.เพชรบุรี 5.ร้านสะดวกซื้อ จ.นครศรีธรรมราช 6.ร้านสะดวกซื้อ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ 7.ร้านจำหน่ายสุรา-บุหรี่ อ.เมือง จ.สระบุรี 8.ร้านจำหน่ายสุรา-บุหรี่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และ 9.ร้านถ่ายรูป อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

นายศักดิ์ดารับว่า เคยก่อคดีลักเหล็กเส้น พื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อปี 2548 ถูกจับกุมดำเนินคดี ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี หลังพ้นโทษกลับมาก่อคดีซ้ำอีก โดยลักเหล็กเส้นในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถูกจับกุมได้ ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำได้รู้จักกับนายเศกสรรค์ ซึ่งถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ตู้เซฟในพื้นที่ อ.คลองหลวง เมื่อพ้นโทษออกมาจึงมาตั้งแก๊งตระเวนลักทรัพย์ทั้งในพื้นที่ภาคใต้ เช่น ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สระบุรี และปทุมธานี โดยจะขับรถกระบะตระเวนไปเรื่อยๆ เพื่อหาบ้านพัก ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชวห่วยที่ไม่มีคนอยู่ จากนั้นจะงัดบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สิน

ด้าน นายเศกสรรค์อ้างว่า แต่ละคดีที่ก่อขึ้นนั้นมีผู้ร่วมกระทำผิดอีก 1 คน คือ นายเอ้ ซึ่งเป็นหลานเขย ส่วนทรัพย์สินที่ขโมยมาได้จะแบ่งกันทันที ส่วนพระเครื่องในกล่องและทรัพย์สินส่วนหนึ่งจะเอาไปใส่ไหฝังดินซ่อนไว้ เมื่อต้องการเงินจึงขุดขึ้นมาขายนำไปเล่นการพนัน และเที่ยวเตร่กลางคืน

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งศาลจังหวัดธัญบุรี ตามหมายจับลงวันที่ 17 มกราคม 2555 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์เวลากลางคืน หลังผู้ต้องหาทั้งสองหลบหนีระหว่างได้รับการประกันตัวในชั้นศาล และจะประสานตำรวจท้องที่ที่มีหมายจับผู้ต้องหามาอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป