คนร้ายบุกถึงบ้านจ่อยิงหัวหนุ่มใหญ่ เซียนพนันย่านบางบ่อ เสียชีวิตคาที่ แล้วฉกเงินสด ที่ได้จากการเล่นพนันมากว่า 3 แสนบาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พระสมเด็จเลี่ยมทอง 1 องค์ และสร้อยข้อมือเพชรหลบหนีไป ตำรวจตั้งปมสังหาร 2 เด็น ทั้งปมการเล่นพนัน และปมส่วนตัว แต่ชิงทรัพย์สินไปเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นสังหาร
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.00 น. พ.ต.ท.ปรเมศท์ มหาศิริธนโรจน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุชายถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 202/213 หมู่บ้านทวีทอง 3 ซ.11 ม.1 ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกับ พ.ต.อ.ฐาณุพงศ์ พรมสวัสดิ์กุล ผกก.สภ.บางบ่อ พ.ต.ท.ประเสริฐ อินทร์สุข สว.สส. พ.ต.ท.สุดใจ เหนือเกาะหวาย สวป. และจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น หน้าบ้านที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีขาว ทะเบียน ฌง 6460 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ภายในบ้านพบศพนายชัยเรศ ธรรมภัคดี อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ 1 ศีรษะ 2 นัดไหล่ซ้าย 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด รวม 4 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กลางบ้านใกล้ศพผู้ตายยังพบหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 นัด
จากการสอบสวน น.ส.วาสนา พุ่มยามเช้า อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ตนเองและสามี เพิ่งกลับจากเล่นการพนันย่านลาดกระบัง ระหว่างที่ขนของลงจากรถเข้าบ้าน ได้มีรถยนต์โตโยต้าวีโก้ สีบรอนทองขับมาจอดหน้าบ้าน จากนั้น มีชายออกมาจากฝั่งที่นั่งโดยสาร เดินเข้ามาหา ตนเห็นผิดสังเกต จึงบอกให้แฟนวิ่งหนี จากนั้นตนเองได้วิ่งขึ้นไปหลบในน้องนอนชั้น2 ของบ้าน และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด รอจนแน่ใจว่าคนร้ายไม่อยู่แล้ว จึงลงมาดู พบว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว และ คนร้ายได้เอาทรัพย์สินเป็นเงินสดในกระเป๋าจำนวน 3 แสนบาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระสมเด็จวัดระฆังเลี่ยมทอง 1 องค์ และสร้อยข้อมือฝังเพ็ชรของผู้ตายไป ทั้งนี้ มีเพื่อนบ้านเห็นรถยนต์คันก่อเหตุขับมาวนเวียนหน้าบ้านแล้ว 3 รอบก่อนหน้านี้ แฟนจะพกอาวุธปืนใว้ป้องกันตัวเป็นประจำ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ถูกตำรวจ สภ.บางเสาธง จับกุมในข้อหา พกพาอาวุปืนไปในทางสาธารณะ และประกันตัวออกมา กระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ลงมือเป็นมือปืนอาชีพ มีจำนวน 2 คน ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องส่วนตัว ส่วนการชิงทรัพย์น่าจะเป็นผลพลอยได้จากการเล่นการพนัน หรือไม่ก็คนร้ายต้องการเบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องชิงทรัพย์ ซึ่งทางตำรวจจะได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป
