ผบ.ตร.สั่งตำรวจทุก บช.ปรับปรุงบัญชีผู้มีอิทธิพล เล็งพื้นที่ภาค 2 และ 7 หลังพบมีกลุ่มมือปืนรับจ้างจำนวนมาก
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยัง บช.ภ.1-9 และ ศชต.เพื่อกำชับมาตรการและแนวทางในการยุติความขัดแย้งที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง โดยมี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมด้วย
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์อาชญากรรมที่มีสาเหตุจากความขัดแย้งในระดับพื้นที่มีแนวโน้มสูง และมีการนำอาวุธปืน อาวุธสงครามมาใช้ในการกระทำความผิด และมีการจ้างวานมือปืนมาก่อเหตุเป็นจำนวนมาก การนัดประชุมครั้งนี้เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์อาชญากรรมโดยเฉพาะคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและคดีประทุษร้ายต่อชีวิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตนจึงสั่งการให้ปรับปรุงและจัดทำบัญชีข้อมูลสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบให้เป็นปัจจุบัน ประกอบด้วย บัญชีมือปืน และกลุ่มมือปืนรับจ้าง, บัญชีกลุ่มการเมืองที่มีความขัดแย้ง โดยเฉพาะการเมืองท้องถิ่น, บัญชีกลุ่มผู้ประกอบการทางธุรกิจที่มีความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ และมีแนวโน้มความรุนแรงที่อาจนำไปสู่การก่อเหตุอุกฉกรรจ์ในอนาคต, บัญชีผู้มีอิทธิพล ผู้สนับสนุน และข้าราชการที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และกำหนดมาตรการเชิงรุก ในการป้องปรามและกดดันเพิ่มเติม เพื่อยุติความขัดแย้ง ลดแรงจูงใจและตัดโอกาสในการกระทำความผิด
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวด้วยว่า ให้ความสำคัญกับพื้นที่ บช.ภ.2 และ บช.ภ.7 เพราะเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มมือปืนรับจ้างเคลื่อนไหวอยู่ แต่ไม่เป็นห่วง เพราะตนไว้ใจ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 อย่างไรก็ตาม ตร.มีมาตรการที่จะจับกุมตามหมายจับ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ในบัญชีที่กลุ่มมือปืนรับจ้างที่สำคัญ 50 ราย แต่กลุ่มมือปืนเหล่านี้จะไม่ปรากฏตัวเพื่อมาก่อเหตุ แต่ตำรวจห่วงกลุ่มมือหน้าใหม่ ที่ยังไม่มีหมายจับ และเป็นพวกที่ถูกชักชวน หรือบางครั้งก็อยากลอง เรามีมาตรการหลายอย่าง เช่น การตั้งด่านตรวจค้นอาวุธปืนและวัตถุระเบิดต่างๆ ซึ่งจะเป็นการกำราบกลุ่มนี้ด้วย