จับแก๊งเด็กแว้นปล้นฆ่าเจ้าของร้านสูทเงาะ ชิงสร้อยคอทองคำ และพระเลี่ยมทองหนัก 2 บาท พบประวัติเคยถูกควบคุมตัวในบ้านเมตตาคดีพยายามฆ่า รับนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเพื่อใช้แต่งรถซิ่ง ส่วนอีกรายที่ยังหลบหนีเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. ร่วมแถลงการจับกุมแก๊งปล้นฆ่านายศิริพงษ์ จิระพงศ์สกุล อายุ 68 ปี เจ้าของร้านตัดสูท “เงาะ” ก่อนชิงสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองหนัก 2 บาทไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาประกอบด้วย นายดนัย หรือเบียร์ สายสนิท อายุ 19 ปี, นายพัชร หรือต้อง ทิพย์ประเสริฐ อายุ 15 ปี และนายยุทธศักดิ์ หรือใย สมบุญจันทร์ อายุ 15 ปี ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ย่านบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2555 เวลา 00.30 น. ได้มีกลุ่มคนร้าย 4 คนใช้จักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ปล้นทรัพย์นายศิริพงษ์ จิรพงศ์สกุล อายุ 67 ปี เจ้าของร้านสูท “เงาะ” โดยใช้อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตาย ก่อนชิงสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองน้ำหนักประมาณ 2 บาท เหตุเกิดในท้องที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการติดตามสืบสวนพยานบุคคล และจากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดที่เกิดเหตุ สามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมด ซึ่งมีเยาวชนอายุ 15 ปีร่วมด้วย จึงไม่สามารถนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้
จากการตรวจสอบประวัตินายดนัย พบว่า เคยก่อคดีพยายามฆ่าในท้องที่ สน.บางยี่ขัน เมื่อปี 2553 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย จึงได้ควบคุมตัวไว้ที่บ้านเมตตา เนื่องจากขณะที่ก่อเหตุยังเป็นเยาวชนอยู่ และในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวที่บ้านเมตตา นายดนัยได้พบกับนายสุมน แก้วศักดิ์ดา ซึ่งถูกควบคุมดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเพิ่งพ้นโทษออกจากบ้านเมตตามาเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นนายดนัยได้ร่วมกันกระทำความผิดกับนายสุมน และนายยุทธศักดิ์อีก และในวันเกิดเหตุนายสุมน นายพัชร และนายยุทธศักดิ์ได้ขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนตามท้องถนนเพื่อร่วมกระทำความผิดด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามตัวนายสุมนซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี เชื่อว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
นายดนัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและเป็นคนยิงนายศิริพงษ์เสียชีวิต รวมทั้งได้นำเอาทรัพย์สินดังกล่าวของผู้ตายไป ซึ่งสาเหตุที่ยิงนายศิริพงษ์เนื่องจากผู้ตายพยายามต่อสู้ขัดขืนจนถอยหลังล้มลง ซึ่งตนได้จังหวะชักปืนจากเอวจ่อยิงทันทีเพราะเกรงว่านายศิริพงษ์จะลุกขึ้นมาทำร้าย จากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองที่ได้ไปขายเพื่อนำเงินมาแต่งรถซิ่งแข่งกัน และซื้อจักรยานยนต์คันใหม่ ส่วนนายพัชร และนายยุทธศักดิ์ เป็นคนขับขี่จักรยานยนต์มาพร้อมกับนายดนัย โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ได้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รอง ผบช.น. ร่วมแถลงการจับกุมแก๊งปล้นฆ่านายศิริพงษ์ จิระพงศ์สกุล อายุ 68 ปี เจ้าของร้านตัดสูท “เงาะ” ก่อนชิงสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองหนัก 2 บาทไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาประกอบด้วย นายดนัย หรือเบียร์ สายสนิท อายุ 19 ปี, นายพัชร หรือต้อง ทิพย์ประเสริฐ อายุ 15 ปี และนายยุทธศักดิ์ หรือใย สมบุญจันทร์ อายุ 15 ปี ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ย่านบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2555 เวลา 00.30 น. ได้มีกลุ่มคนร้าย 4 คนใช้จักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ปล้นทรัพย์นายศิริพงษ์ จิรพงศ์สกุล อายุ 67 ปี เจ้าของร้านสูท “เงาะ” โดยใช้อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตาย ก่อนชิงสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองน้ำหนักประมาณ 2 บาท เหตุเกิดในท้องที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการติดตามสืบสวนพยานบุคคล และจากภาพกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดที่เกิดเหตุ สามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมด ซึ่งมีเยาวชนอายุ 15 ปีร่วมด้วย จึงไม่สามารถนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนได้
จากการตรวจสอบประวัตินายดนัย พบว่า เคยก่อคดีพยายามฆ่าในท้องที่ สน.บางยี่ขัน เมื่อปี 2553 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย จึงได้ควบคุมตัวไว้ที่บ้านเมตตา เนื่องจากขณะที่ก่อเหตุยังเป็นเยาวชนอยู่ และในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวที่บ้านเมตตา นายดนัยได้พบกับนายสุมน แก้วศักดิ์ดา ซึ่งถูกควบคุมดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเพิ่งพ้นโทษออกจากบ้านเมตตามาเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นนายดนัยได้ร่วมกันกระทำความผิดกับนายสุมน และนายยุทธศักดิ์อีก และในวันเกิดเหตุนายสุมน นายพัชร และนายยุทธศักดิ์ได้ขับขี่จักรยานยนต์ตระเวนตามท้องถนนเพื่อร่วมกระทำความผิดด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามตัวนายสุมนซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี เชื่อว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
นายดนัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและเป็นคนยิงนายศิริพงษ์เสียชีวิต รวมทั้งได้นำเอาทรัพย์สินดังกล่าวของผู้ตายไป ซึ่งสาเหตุที่ยิงนายศิริพงษ์เนื่องจากผู้ตายพยายามต่อสู้ขัดขืนจนถอยหลังล้มลง ซึ่งตนได้จังหวะชักปืนจากเอวจ่อยิงทันทีเพราะเกรงว่านายศิริพงษ์จะลุกขึ้นมาทำร้าย จากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทองที่ได้ไปขายเพื่อนำเงินมาแต่งรถซิ่งแข่งกัน และซื้อจักรยานยนต์คันใหม่ ส่วนนายพัชร และนายยุทธศักดิ์ เป็นคนขับขี่จักรยานยนต์มาพร้อมกับนายดนัย โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ได้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีต่อไป