ป.ป.ส.ประกาศจับ 25 นักค้ายารายสำคัญ ตั้งค่าหัว 12 ล้านบาท ส่วนนักค้ายาเสพติดรายใหญ่หัวละ 2 ล้าน จากทั้งหมด 60,000 รายที่มีการเคลื่อนไหวในขณะนี้ พร้อมตั้งชุดปฏิบัติการไล่ล่า 36 ทีมร่วมกับทุกภาคส่วน วอนประชาชนเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส เพื่อเอาชนะยาเสพติด
วันนี้ (20 เม.ย.) เวลา 13.30 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าว “ประกาศจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ” (Most Wanted) ผู้ต้องหาจำนวน 25 ราย รวมเงินรางวัลนำจับทั้งสิ้น 12 ล้านบาท
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การประกาศจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญทั้ง 25 รายครั้งนี้มาจากการบูรณาการร่วมกันในหลายหน่วยงาน เพื่อหวังทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด โดยใน 25 รายนั้นมีรายที่สำคัญอยู่ 2 ราย คือ นายอุสมาน หรือมัง สะแลแมง และนายหน่อคำ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งมีการตั้งรางวัลนำจับไว้รายละ 2 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทั้ง 2 รายหลบหนีอยู่ที่ประเทศลาว ทั้งนี้ยังจัดชุดปฏิบัติการร่วมกับ ป.ป.ส. และร่วมกับ บช.ปส.ออกเป็น 36 ชุด ในการไล่ล่าจับกุมกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดตามประกาศจับ ซึ่งต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมเป็นหูเป็นตาและต้องการทำลายเครือข่ายแกนนำสำคัญ ที่มีประวัติหลายครั้งและมีความเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับเงินรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจ สร้างแรงกดดัน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ทั้งยังจัดทำเป็นโปสเตอร์ภาพนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ และแปลเป็นภาษา 4 ภาษา ไทย อังกฤษ พม่า และยาวี เผยแพร่โดยการติดประกาศตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่าน ศพส.ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับรายชื่อนักค้า 25 ราย และรางวัลนำจับประกอบด้วย
รางวัลนำจับ 2,000,000 บาท มี 2 ราย คือ นายอุสมาน หรือมัง สะแลแมง, นายหน่อคำ ไม่มีนามสกุล
รางวัลนำจับ 1,000,000 บาท มี 3 ราย คือ นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล หรือยี่เซ นายประยุทธ หรือเมธี หงษาคำ หรือแซ่หลี และ พ.อ.นะคำมวย/คำมวย ไม่มีนามสกุล
รางวัลนำจับ 500,000 บาท มี 4 ราย คือ นายชินวัชร์ หรือบอส หรือเอส นัยตรีมิตร นางฟอง ปทุมณี นายสุดเขตร์/สมศักดิ์/ศักดิ์ ปัญจขันธ์ และนายรอดี หรือดี ยะโกะ
รางวัลนำจับ 300,000 บาท มี 6 ราย คือ นายไพรัช แดนชุติมาพาณิช หรือแซ่หลี่ หรือประชา บัวเทศ, นายจายมูล ท้าวมูลละ, นายบุญเจริญ ระจา, นายสุรพล ประทุมตะ, นายจะเดาะ แอแส, นางสุภาพร คำศรีระภาพ
รางวัลนำจับ 200,000 บาท มี 2 ราย คือ นายเล่าหลู่ แซ่เจ๋า หรือนายบุญรัตน์ จิรเมธีวัฒนกุล หรือเสมี, นายยงศิลป์ แซ่ม้า
รางวัลนำจับ 100,000 บาท มี 8 ราย คือ นายอรรถพล พญาวงษ์, นายเด่น หรือใจ๋ พรมมาลี,นายศักดา หรือต๊อด หรือแบงค์ เลิศรัศมิทัศน, น.ส.ไรดา จาโก, นายมูฮำหมัดนูรี หะยีบากา, นายชาญไชย โจเวลลานอส, นายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา, นายสุธรรม คุณดอย
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวอีกว่า ศพส.ได้ทำงานเชิงรุกด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำอยู่ในประเทศที่เป็นต้นตอผลิตยาเสพติด โดยจะนำนักโทษคดียาเสพติดไปคุมขังที่เรือนจำเขาบิน ปิดรอยตะเข็บชายแดน สกัดสารตั้งต้นโดยเฉพาะซูโดอีเฟดรีน ซึ่งทางดีเอสไอกำลังปฏิบัติการครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังร่างกฤษฎีกากฎหมายเฉพาะนักโทษยาเสพติด ซึ่งหากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประหารชีวิตห้ามส่งยื่นฎีกา และให้ประหารภายใน 15 วัน หลังศาลมีคำตัดสิน และยังร่างกฎหมาย 2 ฉบับ คือ หากผู้ต้องหาเสพยาเสพติดมีปัสสาวะสีม่วง แต่สมัครใจเข้าบำบัดเองจะไม่ต้องรับโทษดำเนินคดี ซึ่งหากว่าทำได้เชื่อว่ายาเสพติดจะลดลง แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนถึงจะสำเร็จได้
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การปฏิบัติการไล่ล่าดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งจากนักค้ายาเสพติดทั้งหมดกว่า 60,000 ราย หลังจากที่ได้เผยแพร่ประกาศจับนี้ ศพส. มีความมุ่งหวังให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส และร่วมเป็นพลังในการปราบปราม ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยและภูมิภาค
วันนี้ (20 เม.ย.) เวลา 13.30 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าว “ประกาศจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ” (Most Wanted) ผู้ต้องหาจำนวน 25 ราย รวมเงินรางวัลนำจับทั้งสิ้น 12 ล้านบาท
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การประกาศจับนักค้ายาเสพติดรายสำคัญทั้ง 25 รายครั้งนี้มาจากการบูรณาการร่วมกันในหลายหน่วยงาน เพื่อหวังทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด โดยใน 25 รายนั้นมีรายที่สำคัญอยู่ 2 ราย คือ นายอุสมาน หรือมัง สะแลแมง และนายหน่อคำ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งมีการตั้งรางวัลนำจับไว้รายละ 2 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทั้ง 2 รายหลบหนีอยู่ที่ประเทศลาว ทั้งนี้ยังจัดชุดปฏิบัติการร่วมกับ ป.ป.ส. และร่วมกับ บช.ปส.ออกเป็น 36 ชุด ในการไล่ล่าจับกุมกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดตามประกาศจับ ซึ่งต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมเป็นหูเป็นตาและต้องการทำลายเครือข่ายแกนนำสำคัญ ที่มีประวัติหลายครั้งและมีความเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับเงินรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจ สร้างแรงกดดัน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ทั้งยังจัดทำเป็นโปสเตอร์ภาพนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ และแปลเป็นภาษา 4 ภาษา ไทย อังกฤษ พม่า และยาวี เผยแพร่โดยการติดประกาศตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่าน ศพส.ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับรายชื่อนักค้า 25 ราย และรางวัลนำจับประกอบด้วย
รางวัลนำจับ 2,000,000 บาท มี 2 ราย คือ นายอุสมาน หรือมัง สะแลแมง, นายหน่อคำ ไม่มีนามสกุล
รางวัลนำจับ 1,000,000 บาท มี 3 ราย คือ นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล หรือยี่เซ นายประยุทธ หรือเมธี หงษาคำ หรือแซ่หลี และ พ.อ.นะคำมวย/คำมวย ไม่มีนามสกุล
รางวัลนำจับ 500,000 บาท มี 4 ราย คือ นายชินวัชร์ หรือบอส หรือเอส นัยตรีมิตร นางฟอง ปทุมณี นายสุดเขตร์/สมศักดิ์/ศักดิ์ ปัญจขันธ์ และนายรอดี หรือดี ยะโกะ
รางวัลนำจับ 300,000 บาท มี 6 ราย คือ นายไพรัช แดนชุติมาพาณิช หรือแซ่หลี่ หรือประชา บัวเทศ, นายจายมูล ท้าวมูลละ, นายบุญเจริญ ระจา, นายสุรพล ประทุมตะ, นายจะเดาะ แอแส, นางสุภาพร คำศรีระภาพ
รางวัลนำจับ 200,000 บาท มี 2 ราย คือ นายเล่าหลู่ แซ่เจ๋า หรือนายบุญรัตน์ จิรเมธีวัฒนกุล หรือเสมี, นายยงศิลป์ แซ่ม้า
รางวัลนำจับ 100,000 บาท มี 8 ราย คือ นายอรรถพล พญาวงษ์, นายเด่น หรือใจ๋ พรมมาลี,นายศักดา หรือต๊อด หรือแบงค์ เลิศรัศมิทัศน, น.ส.ไรดา จาโก, นายมูฮำหมัดนูรี หะยีบากา, นายชาญไชย โจเวลลานอส, นายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา, นายสุธรรม คุณดอย
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวอีกว่า ศพส.ได้ทำงานเชิงรุกด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำอยู่ในประเทศที่เป็นต้นตอผลิตยาเสพติด โดยจะนำนักโทษคดียาเสพติดไปคุมขังที่เรือนจำเขาบิน ปิดรอยตะเข็บชายแดน สกัดสารตั้งต้นโดยเฉพาะซูโดอีเฟดรีน ซึ่งทางดีเอสไอกำลังปฏิบัติการครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังร่างกฤษฎีกากฎหมายเฉพาะนักโทษยาเสพติด ซึ่งหากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประหารชีวิตห้ามส่งยื่นฎีกา และให้ประหารภายใน 15 วัน หลังศาลมีคำตัดสิน และยังร่างกฎหมาย 2 ฉบับ คือ หากผู้ต้องหาเสพยาเสพติดมีปัสสาวะสีม่วง แต่สมัครใจเข้าบำบัดเองจะไม่ต้องรับโทษดำเนินคดี ซึ่งหากว่าทำได้เชื่อว่ายาเสพติดจะลดลง แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนถึงจะสำเร็จได้
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า การปฏิบัติการไล่ล่าดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งจากนักค้ายาเสพติดทั้งหมดกว่า 60,000 ราย หลังจากที่ได้เผยแพร่ประกาศจับนี้ ศพส. มีความมุ่งหวังให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส และร่วมเป็นพลังในการปราบปราม ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยและภูมิภาค