โชเฟอร์แท็กซี่หื่นลวงผู้โดยสารสาวเข้าทางสายเปลี่ยวขยี้กามยับ แถมชิงทรัพย์แล้วบังคับเหยื่อลงจากรถก่อนซิ่งหนี โชคดีตำรวจจับตาพฤติกรรมอยู่เลยตามรวบได้ทันควัน สารภาพหน้าตาเฉยทำไปเพราะความเมา
วันนี้ (15 เม.ย.) ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล สว.สส.สน.คันนายาว พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คันนายาว ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพิพัฒน์ หรือกุ๊ก หอมจันทร์ อายุ 40 ปี อาชีพคนขับรถแท็กซี่ โดยถูกจับได้พร้อมรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทม 4664 กทม. มีดปังตอ 1 เล่ม กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว รับแจ้งจาก น.ส.พิ้งกี้ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ว่าถูกคนขับรถแท็กซี่ลวงไปข่มขืนกระทำชำเราบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ปากซอยกาญจนาภิเษก 6/1 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายจะเป็นนายพิพัฒน์ หอมจันทร์ ซึ่งมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวอยู่ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่หมู่บ้านเอื้ออาทรปัญญาอินทรา ถนนปัญญา-อินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. พบนายพิพัฒน์กำลังขับรถแท็กซี่ออกจากหมู่บ้านลักษณะคล้ายเตรียมจะหลบหนี จึงเข้าจับกุมเอาไว้ได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นนายพิพัฒน์รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือข่มขืนผู้โดยสารสาวจริง
สอบสวน น.ศ.พิ้งกี้ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันเกิดเหตุได้เรียกรถแท็กซี่ที่มีนายพิพัฒน์เป็นคนขับจากร้านสปากระเช้าสีดา ใกล้แยกคลองสอง จ.ปทุมธานี เพื่อไปหาญาติที่ย่านถนนงามวงศ์วาน โดยพิพัฒน์ได้ขับรถพามาตามเส้นทางถนนเลียบถนนกาญจนาภิเษกซึ่งเป็นเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุนายพิพัฒน์ทำทีเป็นรับโทรศัพท์พร้อมกับขอถอยรถเข้าไปในที่มืด ซึ่งตอนนั้นตนเริ่มเอะใจแต่ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากรู้สึกกลัว จากนั้นนายพิพัฒน์ได้คว้ามีดปังตอออกมาจากที่ซ่อนแล้วนำมาจ่อที่คอตน ก่อนจะเอนเบาะคนขับแล้วปีนข้ามมาหา ตนพยายามขัดขืนนายพิพัฒน์ จึงใช้สันปังตอฟาดที่คอและต้นขา จากนั้นจึงบังคับข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายภายในมีเงินสดอยู่ 2,700 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง แล้วบังคับให้ตนลงจากรถพร้อมกับข่มขู่ว่าถ้าไม่ลงจะจับกดน้ำ ตนจึงต้องลงจากรถในสภาพเปลือยเปล่าแล้วนายพิพัฒน์จึงขับรถหลบหนีไป
ด้านนายพิพัฒน์ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งดื่มเหล้าที่ด้านหน้าห้างโลตัสใกล้กับซาฟารีเวิลด์แล้วขับรถไปเติมแก๊ส แต่พบ น.ส.พิ้งกี้เรียกให้ไปส่งทำให้เกิดมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาจึงพาเหยื่อสาวขับรถวนไปตามถนนเลียบถนนกาญจนาภิเษก เนื่องจากเป็นที่มืดและเปลี่ยว เมื่อสบโอกาสจึงบังคับให้เหยื่อถอดเสื้อผ้าแล้วข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ก่อนจะปล่อยตัวไป โดยยืนยันว่าเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก ส่วนมีดปังตอนั้นเตรียมไว้ใช้เป็นอุปกรณ์ซ่อมรถเวลายางแตก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาใช้อาวุธชิงทรัพย์ และข่มขืนกระทำชำเรา เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป