xs
xsm
sm
md
lg

คุก 245 ปี สาวแสบตุ๋นเหยื่อร่วมทุนทำเครื่องเบญจรงค์เชิด 70 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
จำคุกอ่วม 245 ปี สาวสุพรรณฯ ลวงชาวบ้านร่วมลงทุน 70 ล้าน อ้างส่งแรงงานทำเครื่องเบญจรงค์ส่งต่างประเทศ ให้ดอกร้อยละ 120 ต่อปี สารภาพศาลลดโทษกึ่งหนึ่ง สุดท้ายขังจริงได้ 20 ปีที่กฎหมายกำหนด ส่วนพี่สามีให้ยกฟ้อง

วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิมิลัญจ์ หรือภัทรภูมิ ภูมิชนน์ อายุ 42 ปี ชาวจ.สระบุรี และ น.ส.พาฝัน หรือเบญญทิพย์ เดโชชัย อายุ 36 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐาน ร่วมกันกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 15 ส.ค.45-17 มิ.ย.47 ต่อเนื่องกัน จำเลย ทั้งสองกับพวกอีกหลายคนที่ศาลลงโทษแล้ว ได้บังอาจเจตนาทุจริตหลอกลวงประชาชน โดยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ชักชวนประชาชนให้นำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ และธุรกิจทำเครื่องเบญจรงค์ส่งจำหน่ายต่างประเทศ โดยจะได้รับผลประโยชน์ตอบ แทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาลงทุนกับจำเลยรวม 49 ราย รวมเป็นเงิน 68,457,000 บาท ทั้งที่ความจริงแล้ว จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งแรงงาน และส่งเครื่องเบญจรงค์จำหน่ายต่างประเทศแต่อย่างใด เหตุเกิดที่ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ อ้างว่า ตกเป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน เนื่องจากถูกน้องชาย และ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ หลอกให้นำเงินมาลงทุนหลายสนบาท โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานโจทก์แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เสียหายเบิกความยืนยันสอดคล้องกันว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ชักจูงมาให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ ส่วนจำเลยที่ 1 ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ามีส่วนรวมกระทำผิด

พิพากษาว่า นางพาฝัน จำเลยที่ 2 กระทำผิดมาตรา 343 วรรคแรก ประมวลกฎหมายอาญา ประกอบมาตรา 83, พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2547 มาตรา 4 วรรคแรก, 5 และ 12 เป็นการกระทำผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นบทหนักสุดจำคุกกระทง ละ 5 ปี จำนวน 49 กระทง รวม 245 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 122 ปี 6 เดือน ซึ่งตามกฎหมายกำหนดโทษจำคุกไว้สูงสุด 20 ปี และให้คืนเงินจำนวน 68,457,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 คืนให้ผู้เสียหาย ส่วนนายสิมิลัญจ์ จำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น