xs
xsm
sm
md
lg

“ผบ.ตร.” ยันจับมือระเบิดคาร์บอมบ์ได้อีก 2 คน สั่งคุมเข้มหวั่นวินาศกรรมช่วงสงกรานต์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.
“เพรียวพันธ์” ยันจับมือระเบิดคาร์บอมบ์เพิ่มได้อีก 2 ราย หลังก่อนหน้าจับผู้ต้องสงสัยได้ 3 ราย ระบุเป็นขบวนการเดียวกันและน่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด จ.ยะลา-ลีการ์เดนส์ พร้อมมีคำสั่งถึงทุกหน่วยงานให้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์ สถานที่สำคัญ-ชาวต่างชาติที่อาจตกเป็นเป้าหมาย


วันนี้ (5 เม.ย.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุระเบิดคาร์บอมในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา และโรงแรมลีการ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์คาร์บอมทางภาคใต้ ในพื้นที่ จ.ยะลานั้นสามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ 3 คนก่อนหน้านี้ และจับได้อีก 2 คนเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิด อ.เมือง จ.ยะลา และมีประวัติบุคคลเหล่านี้อยู่แล้ว ส่วนพยานหลักฐานอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ นั้นโดนระเบิดไปแล้วคงจะพิสูจน์ไม่ได้ แต่จะใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเดียวกันกับเหตุการณ์ระเบิดที่โรงแรมลีการ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายสืบสวน คงอธิบายอะไรมากไม่ได้

วันเดียวกัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีโทรสารด่วนที่สุด ถึง ผบช.น. ผบช.ภ.1-9 และผบช.ศชต. ผบช.ส. ผบช.สตม.ผบช.ก และผบช.ตชด.สั่งการให้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์ คำสั่ง ผบ.ตร.ระบุว่า ตามที่สถานการณ์ก่อการร้ายยังคงเป็นภัยคุกคามความสงบเรียบร้อยของประชาคมโลก และจากการจับกุมสารประกอบระเบิด และเหตุระเบิด 3 จุดโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในพื้นที่ กทม.ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงต้องเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ กทม.(ถนนข้าวสาร ถนนสุขุมวิท) เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยบุคคล และสถานที่สำคัญที่อาจตกเป็นเป้าหมาย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดังนี้

“ให้สันติบาลเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานทูต สถานกงสุล และบุคคลสำคัญทางการทูต โดยให้ประสานการปฏิบัติกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสถานทูต และสถานีตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมการปฏิบัติให้เข้มแข็งรัดกุมมากขึ้น ขณะเดียวกันสั่งการให้นครบาล บช.ภ.2, 5, 8 และบช.ก.กำชับสถานีตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สายตรวจปฏิบัติการพิเศษและหน่วยปฏิบัติการพิเศษให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา โดยจัดกำลังสายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถยนต์ จักรยานยนต์ สุนัขตำรวจ และตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจบุคคล ยานพาหนะ รอบบริเวณสถานที่สำคัญ รวมทั้งตรวจสอบอาคารสูง จุดสูงข่ม รอบบริเวณภายในรัศมี 300 เมตร เพื่อป้องกันอาวุธวิถีโค้งที่อาจพุ่งเป้าสถานทูต สถานกงสุล ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ทางศาสนา แหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการภาคธุรกิจ ร้านอาหาร ซึ่งเป็นที่นิยมพบปะสังสรรค์ โดยให้ตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ เช่น ตำรวจท่องเที่ยว กองปราบปราม ทางหลวง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขึ้นการควบคุมทางยุทธการ ด้านแผนและการปฏิบัติกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หรือผู้บังคับการตำรวจนครบาล เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างมีเอกภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด”

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์สั่งการอีกว่า ให้ สตม.เพิ่มความเข้มในการตรวจการเดินทางเข้าออก ของบุคคลสัญชาติเป้าหมายทุกช่องทาง โดยต้องวิเคราะห์เส้นทางการเดินทางของกลุ่มบุคคลสัญชาติ เป้าหมายเพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจ ในการดำเนินพิธีการเข้าเมืองตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งต้องตรวจสอบบุคคลสัญชาติเป้าหมายที่เข้าพักในโรงแรม หรือที่พักอาศัยในพื้นที่รับผิดชอบอย่างจริงจังด้วย ขณะที่ให้ ตชด.จัดชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติได้ทันที ที่ได้รับการร้องขอ หรือมีคำสั่ง ทั้งนี้ให้ ผบก.และ รอง ผบก.หน่วย ลงไปควบคุมกวดขันกำชับ ตรวจสอบ การปฏิบัติด้วยตนเอง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หากมีเหตุฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนให้รายงาน ตร.ทราบทันที ผ่านศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.)
กำลังโหลดความคิดเห็น