xs
xsm
sm
md
lg

คดี “โจอี้ บาซู” ยักยอกบีเอ็มฯ จบ ศาลปรับ 3 พัน หลังนำเงินมาชดใช้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

อดีตนักร้องดัง โจอี้ บาซู กับบริษัทไฟแนนซ์คู่ความสามารถตกลงกันได้หลังศาลเข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
คดีอดีตนักร้องดัง “โจอี้ บาซู” ถูกไฟแนนซ์ฟ้องยักยอกรถบีเอ็มดับเบิลยูไกล่เกลี่ยสำเร็จ ศาลสั่งปรับ 3 พัน หลังเจ้าตัวนำเงิน 1.5 แสนมาชดใช้ให้คู่กรณี

วันนี้ (5 เม.ย.) ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไกลเกลี่ยประนอมข้อพิพาทคดีหมายเลขดำ อ.244/2555 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 2 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุรเดช ทับทิมใส หรือ โจอี้ บาซู อายุ 43 ปี อดีตนักร้องวงบาซู เป็นจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์

คดีนี้โจทก์ฟ้องสรุปความผิดว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2545 จำเลยได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 318 ไอ เอเอสอี สีแดง หมายเลขทะเบียน วว 318 กรุงเทพมหานคร ราคา 2 ,633,177.52 บาท กับบริษัท ซีทีไอ แอสเซทส์ ลิสซิ่ง จำกัด ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นบริษัทไฟแนนซ์ โดยมีนายวุฒิพงศ์ หรือณัฐวุฒิ ถนอมวงศ์ ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง เป็นผู้ค้ำประกัน ระหว่างที่จำเลยและนายวุฒิพงศ์ครอบครองรถนั้นได้ร่วมกันเบียดบังเอารถไปจำหน่ายให้แก่ผู้อื่นโดยทุจริต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถและมอบคืนให้กับผู้เสียหาย เหตุเกิดที่เขตห้วยขวาง กทม.

โดยนัดนี้ โจอี้ บาซู นำเงินจำนวน 150,000 บาท มอบให้แก่ตัวแทนบริษัทผู้เสียหาย ต่อหน้าผู้พิพากษา ตามที่ทั้งสองฝ่ายประสงค์นำคดีเข้าศูนย์สมานฉันท์และสันติวิธี กระทั่งสามารถเจรจายินยอมชดใช้เงินกันได้ โดยตัวแทนผู้รับมอบอำนาจบริษัทผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจเอาความ แต่ด้วยนโยบายของบริษัทฯ ไม่อาจถอนคำร้องทุกข์ได้ ผลของคดีให้ศาลเป็นผู้พิจารณา

จากนั้นศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 ลงโทษปรับ 6,000 บาท จำเลยและผู้เสียหายนำคดีเข้าศูนย์สมานฉันท์และสันติวิธี จำเลยยินยอมชดใช้เงินคืนให้ โดยผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ และคดีเป็นความผิดต่อส่วนตัว ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลยจำนวน 3,000 บาท

ภายหลังนายสุรเดช หรือโจอี้ กล่าวว่า ตนไม่มีเจตนายักยอกรถบีเอ็มดับเบิลยู แต่ที่เป็นปัญหาเนื่องจากเพื่อนที่เป็นคนค้ำประกันรถ นำรถคันดังกล่าวไปขาย ทางบริษัทไฟแนนซ์จึงแจ้งความดำเนินคดีตน ภายหลังได้ติดตามกระทั่งสามารถนำรถกลับไปคืนบริษัทไฟแนนซ์ได้ ส่วนเพื่อนที่เป็นคนค้ำประกันหลบหนีไปไม่สามารถตามตัวได้ ต่อมาบริษัทนำรถขายทอดตลาด โดยบริษัทให้ตนชดใช้ค่าส่วนต่างรถจำนวน 350,000 บาท เมื่อเรื่องถึงชั้นศาลจึงมีการไกล่เกลี่ยลดเหลือ 150,000 บาท ตนยินดีชดใช้ให้ ส่วนคำพิพากษาของศาลที่สั่งปรับ 3,000 บาทก็ยอมรับ ถือว่าเรื่องคดีไม่มีอะไรเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น