จนท.กรมอุทยานฯ ร่วมกับ ปทส.บุกสวนสัตว์ “สตาร์ไทเกอร์” จ.ชัยภูมิ ยึดลูกเสือโคร่ง 2 ตัวไม่มีใบอนุญาตครอบครอง หลัง จนท.ตรวจพบลูกเสือกับแม่เสือ ดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ด้านเจ้าของสวนสัตว์แจงได้ลูกเสือมาถูกต้องพร้อมนำผลตรวจดีเอ็นเอ จากสัตว์แพทย์ยัน พร้อมยึดลูกเสือไปตรวจสอบและดำเนินคดีต่อเจ้าของสวนสัตว์ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
วันนี้ (5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ปทส. นำหมายศาลจังหวัดชัยภูมิ เลขที่ ค.52/2555 ลงวันที่ 4 เมษายน 2555 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจติดอาวุธ บุกเข้าตรวจค้นสวนสัตว์ชื่อสตาร์ไทเกอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 121 บ้านยางบ่า ต.โคกสูง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมยึดเสือโคร่งจำนวน 2 ตัวได้จากสวนสัตว์ดังกล่าว
สืบเนื่องจากเมื่อ ก.ค.ปี 54 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสวนสัตว์สตาร์ไทเกอร์แล้วพบลูกเสือ 2 ตัวไม่มีใบอนุญาต แต่ทางสวนสัตว์อ้างเป็นลูกเสือที่เพิ่งเกิด เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของแม่เสือและลูกเสือไว้ตรวจสอบ จนกระทั่งผลดีเอ็นเอกับพบว่าเสือโคร่งดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกันเป็นลูกของเสือโคร่งเพศเมียที่เจ้าของสวนสัตว์ครอบครองไว้ เจ้าหน้าที่จึงขอหมายศาลเข้าตรวจยึดลูกเสือโคร่งเพศเมียและเพศผู้ อายุประมาณ 1 ปี จำนวน 2 ตัว ซึ่งถูกขังอยู่ในกรงภายในสวนสัตว์ จึงได้ตรวจยึดเสือทั้ง 2 ตัวนำไปตรวจสอบที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
ด้าน น.ส.ดาวเรือง ชัยมาตร อายุ 38 ปี เจ้าของสวนสัตว์สตาร์ไทเกอร์ กล่าวว่า ลูกเสือทั้ง 2 ตัวได้มาอย่างถูกต้อง พร้อมนำผลการตรวจดีเอ็นเอจากสัตวแพทย์มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งของประเทศ ที่เป็นกลาง พร้อมกับระบุถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ก่อนหน้านี้เคยบุกเข้ายึดลูกเสือไปตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งจนเกิดเรื่องฟ้องร้องกัน และหลังจากอัยการฯ สั่งไม่ฟ้อง ได้ขอรับสัตว์คืนและได้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาต่อ น.ส.ดาวเรือง ครอบครองสัตว์ป่าโดยไม่มีใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ดำเนินดคี