หนุ่มใหญ่นอนตายสภาพเปลือยกาย ภายในรถเก๋งซีวิค คาดผู้ตายพาคู่ขามานอนในรถ แล้วกินยาเสริมพลังทางเพศ จนช็อกเสียชีวิตหรืออาจถูกแก๊งมอมยา เนื่องจากตรวจสอบพบสร้อยคอและพระเครื่องราคาแพงหายไป ต้องรอตรวจพิสูจน์สารเคมีในเลือดอีกครั้ง จึงจะทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง
วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.ท.ภาณุศักดิ์ เสมอศรี พงส.(สบ 2) สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ ที่ลานจอดรถแคมป์พักคนงานปากซอยเอบีซี ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สน.มักกะสัน ฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.รามาธิบดี และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สล199 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่โดยเปิดกระจกด้านหลังแง้มไว้เพียงเล็กน้อย ภายในรถพบศพ นายก้อง (นามสมมติ) อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานฝ่ายขายบริษัท เจเจพี โลจิสติกส์ จำกัด โดยมีสภาพเปลือยกายนุ่งเพียงกางเกงใน นั่งคดอยู่ที่พักเท้าหลังเบาะคนขับ ที่มุมปากด้านซ้ายมีเลือดไหลออกมา และที่เท้าผู้ตายยังพบกางเกงยีนส์ และเสื้อยืดโปโลสีเทากองอยู่ ด้านคอนโซลหน้ารถพบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแบล็กเบอร์รี 1 เครื่อง และแว่นตา 1 อันวางอยู่ ตรงกระจกรถยังพบคราบเหงื่อติดอยู่จำนวนมากจึงเก็บไว้หลักฐาน ส่วนตัวของผู้ตายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย หรือมีร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด
พ.ต.อ.เอกรักษ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ได้ให้การว่าเห็นผู้ตายมาจอดรถตั้งแต่เช้ามืดของวันนี้ แล้วเห็นมีเท้าคนประมาณ 4 เท้าซ้อนกันอยู่ โผล่ออกมาจากประตูด้านหลังที่เปิดแง้มเอาไว้ ก็ไม่ได้สนใจอะไร จากนั้นพอช่วงสายก็มีคนเห็นผู้ตายมีอาการสะลึมสะลือคล้ายคนเมานอนอยู่ในรถเพียงคนเดียว กระทั่งช่วงเย็นชาวบ้านเอะใจว่าทำไมไม่ไปเสียทีเลยเดินมาดูที่รถอีกครั้งก็พบว่านายก้อง เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะไปดื่มเหล้ามาแล้วพาคู่ขายังไม่ทราบว่าเป็นชายหรือหญิงมาจอดรถเพื่อจะมีเพศสัมพันธ์กัน แต่ผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานและความดัน และอาจกินยาเสริมพลังทางเพศจนเกิดอาการช็อกยาเสียชีวิต หรืออาจถูกมอมยาแล้วรูดเอาทรัพย์สินไปก็เป็นได้ เนื่องจากญาติผู้ตายระบุว่ามีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท กับพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นเกตุไชโย เลี่ยมทองหนัก 1 บาท มูลค่าหลายล้านบาท ที่ผู้ตายคล้องคอไว้หายไปด้วย หลังจากนี้จะให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ พร้อมทั้งรอผลตรวจเลือดจากแพทย์ว่าในร่างกายผู้ตายมียานอนหลับ หรือยาปฏิชีวนะหรือไม่ จึงจะทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป