ดีเอสไอทลายแหล่งผลิตแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ ยึดบลูเรย์หนังไทย-ฝรั่ง 120 แผ่น ฮาร์ดดิสก์หนัง และ คอมพ์-เครื่องปรินเตอร์ มูลค่า 3-4 แสนบาท ขณะที่ “ปิยะวัฒก์” เผย แผ่นบลูเรย์หนังปกติจะขาย 800-900 บาท แต่ที่ละเมิดและลักลอบขายผ่านเน็ตในราคาแผ่นละ 150 บาท ลั่นจะเร่งปราบปรามซีดีเถื่อน สินค้าปลอมทั่วประเทศให้หมดไป
วันนี้ (15 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา แถลงการตรวจค้นแหล่งผลิตแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ เสนอขายทางอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ http://www.dvdtook.com ได้ของกลางแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ไทย-ฝรั่ง จำนวน 120 แผ่น ฮาร์ดดิสก์บันทึกภาพยนตร์ 10 ลูก ( ลูกละประมาณ 70 เรื่อง) คอมพิวเตอร์ จำนวน 3 เครื่อง และ ปรินเตอร์สำหรับพิมพ์สีแผ่นบลูเรย์ 1 เครื่อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 3-4 แสนบาท
นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับแจ้งจากบริษัท ยูไนเต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นดีวีดี และแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์จากต่างประเทศว่ามีการลักลอบจำหน่ายอย่างเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ต่างๆ จึงจัดชุดสืบสวนหาข่าวและเข้าตรวจค้นจับกุม จึงพบว่ามีการเสนอขายแผ่นบลูเรย์และฮาร์ดดิสก์บลูเรย์ภาพยนตร์ ทางเว็บไซต์ดังกล่าว โดยเมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า และโอนเงินเข้าบัญชีผู้กระทำผิดแล้ว ก็จะจัดส่งแผ่นบลูเรย์ หรือฮาร์ดดิสก์ให้กับลูกค้าทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จึงได้เฝ้าจุดสะกดรอย จนพบว่าผู้กระทำผิดได้ใช้บ้านเลขที่ 35 ซอยรามอินทรา 5 แยก 18 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.เป็นสถานที่กระทำผิด และพบของกลางจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้การละเมิดลิขสิทธิ์งานภาพยนตร์ทางอินเตอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ ทำให้บริษัท ยูไนต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ได้รับความเสียหายเดือนละหลายล้านบาท
ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า ปกติแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ที่ถูกต้อง จะขายกันราคาแผ่นละ 800-900 บาท แต่การลักลอบผลิตและจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตจะขายแผ่นละ 150 บาท ซึ่งเป็นการลงทุนน้อย แต่สร้างมูลค่าให้กับผู้ลักลอบผลิตเป็นมูลค่าสูง ขณะเดียวกับได้สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
“ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นซีดี ดีวีดีเถื่อน และสินค้าปลอมที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าทั้งหลาย ทั้งในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด รวมทั้งการขายสินค้าปลอมบนอินเตอร์เน็ต ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า นาฬิกา เครื่องสำอาง และยาปลอม ซึ่งขณะนี้พบการกระทำผิดเป็นจำนวนมาก” พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าว
วันนี้ (15 มี.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา แถลงการตรวจค้นแหล่งผลิตแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ เสนอขายทางอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ http://www.dvdtook.com ได้ของกลางแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ไทย-ฝรั่ง จำนวน 120 แผ่น ฮาร์ดดิสก์บันทึกภาพยนตร์ 10 ลูก ( ลูกละประมาณ 70 เรื่อง) คอมพิวเตอร์ จำนวน 3 เครื่อง และ ปรินเตอร์สำหรับพิมพ์สีแผ่นบลูเรย์ 1 เครื่อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 3-4 แสนบาท
นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับแจ้งจากบริษัท ยูไนเต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นดีวีดี และแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์จากต่างประเทศว่ามีการลักลอบจำหน่ายอย่างเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ต่างๆ จึงจัดชุดสืบสวนหาข่าวและเข้าตรวจค้นจับกุม จึงพบว่ามีการเสนอขายแผ่นบลูเรย์และฮาร์ดดิสก์บลูเรย์ภาพยนตร์ ทางเว็บไซต์ดังกล่าว โดยเมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า และโอนเงินเข้าบัญชีผู้กระทำผิดแล้ว ก็จะจัดส่งแผ่นบลูเรย์ หรือฮาร์ดดิสก์ให้กับลูกค้าทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จึงได้เฝ้าจุดสะกดรอย จนพบว่าผู้กระทำผิดได้ใช้บ้านเลขที่ 35 ซอยรามอินทรา 5 แยก 18 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.เป็นสถานที่กระทำผิด และพบของกลางจำนวนดังกล่าว ทั้งนี้การละเมิดลิขสิทธิ์งานภาพยนตร์ทางอินเตอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ ทำให้บริษัท ยูไนต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ได้รับความเสียหายเดือนละหลายล้านบาท
ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า ปกติแผ่นบลูเรย์ภาพยนตร์ที่ถูกต้อง จะขายกันราคาแผ่นละ 800-900 บาท แต่การลักลอบผลิตและจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตจะขายแผ่นละ 150 บาท ซึ่งเป็นการลงทุนน้อย แต่สร้างมูลค่าให้กับผู้ลักลอบผลิตเป็นมูลค่าสูง ขณะเดียวกับได้สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
“ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นซีดี ดีวีดีเถื่อน และสินค้าปลอมที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าทั้งหลาย ทั้งในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด รวมทั้งการขายสินค้าปลอมบนอินเตอร์เน็ต ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า นาฬิกา เครื่องสำอาง และยาปลอม ซึ่งขณะนี้พบการกระทำผิดเป็นจำนวนมาก” พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าว