มติ ตร.ชง “พงศพัศ” ดูแลเช่ารถให้โรงพักทั่วประเทศ

ผบช.กมค.เผย ถกเช่ารถมีมติให้ “พงศพัศ” ดูแลเซ็นอนุมัติหรือยินยอมให้เช่ารถยนต์ให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ แต่หากเป็นเรื่องสำคัญ หรือมีความผูกผันระหว่างงบประมาณ 5 ปี ในการเช่ารถยนต์ทั้งหมด จะต้องรายงานให้ “เพรียวพันธ์” ทราบเพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม

วันนี้ (13 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ภัทรชัย หิรัญญเวช ผบช.กมค. ฐานะประธาน พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการประชุมเรื่องการพิจารณาการเช่ารถยนต์ไว้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจทั่วประเทศไทยทั้งหมด 1,460 สถานี

พล.ต.ท.ภัทรชัย กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายจะพิจารณาในส่วนของหนังสือที่จะรับรองให้ระดับผู้บังคับบัญชาระดับ รองผบ.ตร.หรือ ผบช.ที่รับผิดชอบสามารถเซ็นหนังสืออนุมัติในการเช่ารถยนต์ดังกล่าว เพื่ออนุมัติโครงการและส่งเรื่องให้สำนักงานงบประมาณ (สงป.) พิจารณาในการเรื่องของการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการต่อไป

“อย่างไรก็ตาม สรุปผลการประชุมมีมติเห็นชอบให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ที่ดูแลในส่วนของงานบริหาร ตร.สามารถเซ็นอนุมัติ หรือยินยอมให้มีการเช่ารถยนต์ได้ แต่หากเป็นเรื่องสำคัญ หรือมีความผูกพันระหว่างงบประมาณ 5 ปี ในการเช่ารถยนต์ทั้งหมด จะต้องรายงานให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.รับทราบ แล้วพิจารณาตามความเหมาะสมว่า จะยืนยอมหรืออนุมัติให้มีการดำเนินการต่อหรือไม่ ทั้งนี้ ทาง ตร.จะให้สำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) เป็นผู้ดำเนินการในรายละเอียดอีกครั้ง” ผบช.กมค.กล่าว

รายงานแจ้งว่า การเช่ารถยนต์เริ่มตั้งแต่ปี 50 และจะหมดสัญญาในวันที่ 30 ก.ย.55 โดยการเช่ารถยนต์ทั้งหมดทุกประเภทรวมกว่า 3,000 คัน เป็นค่าเช่ารถสายตรวจทั้งหมดกว่า 7,000 ล้านบาท ขณะที่ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยกล่าวถึงการยกระดับให้ผู้กำกับทั่วประเทศมีรถกระบะเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น ในการมอบนโยบายให้ผู้กำกับทั่วประเทศที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีการระบุออกมาว่า จะมีปรับแผนในโครงการเพิ่มจำนวนรถยนต์ดังกล่าวเพื่อใช้งานในส่วนใด โดยเฉพาะการเพิ่มรถยนต์เพื่อใช้งานสำหรับสายตรวจประจำสถานีมอบให้ระดับ รองผกก.เป็นผู้กำหนดเรื่องการใช้งาน ทั้งนี้ คงต้องรอผลสรุปในการหารือและพิจาณาว่าจะใช้วิธีใดในการเช่ารถยนต์หลังจากหมดสัญญาต่อไป