รวบเครือข่ายค้ายาเรือนจำบางขวาง ยึดของกลาง 1.3 แสนเม็ด สารภาพเคยติดคุกคดีฆ่าคนตายมาก่อน เมื่อพ้นโทษจึงรับจ้างส่งยาเสพติด อ้างที่ตัดสินใจทำเพราะต้องใช้หนี้แทนเพื่อน 3 ล้าน เนื่องจากเพื่อนเอายาไปส่งแต่ไม่ได้เงิน ยันแค่นามสกุลเหมือนอดีต ผอ.สวนสัตว์ แต่ไม่ได้เป็นญาติกัน
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 แถลงผลการจับกุม นายอิทธิพัทธ์ หรือหมี ดำนุ้ย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/10 ถนนจุลจอมเกล้า ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และนายสิทธิศักดิ์ หรือสิทธิ์ แท่นนาค อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 9 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางยาบ้า 130,000 เม็ด ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม อาวุธปืนขนาด .45 ยี่ห้อโคลท์ 1 กระบอก รถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-6646 นนทบุรี สามารถจับกุมได้ที่หน้าอาคาร 14 สมบัติบุรีคอนโด หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.9 นำกำลังจับกุม นายจารุกิตต์ หรือตู่ เรืองรองหิรัญญา อายุ 32 ปี พร้อมยาบ้า 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 100 กรัม ซึ่งขยายผลได้ข้อมูลยาเสพติดว่ามาจากนายหมี โดยพักที่อาคาร 14 สมบัติบุรีคอนโด จึงเข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหา พร้อมเพื่อนเดินมาจากอาคาร ซึ่งในมือมีกระเป๋าแบบมีหูหิ้ว จึงแสดงตัวจับกุมพบยาบ้า 80,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืน ต่อมานำไปตรวจค้นห้องพักเลขที่ 114/182 ภายในสมบัติบุรีคอนโด พบยาบ้าอีก 50,000 เม็ด และยาไอซ์ 2 กิโลกรัม
จากการสอบสวนนายอิทธิพัทธ์สารภาพว่า รับยาเสพติดมาจากนายรวย อยู่ฝั่งด่านท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า โดยมีผู้นำมาส่งให้อีกที ซึ่งก่อนหน้านี้เคยติดคุกคดีฆ่าคนตายที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งต้องโทษ 13 ปี 7 เดือน โดยพ้นโทษมาเมื่อปี 2542 และทำมาหากินด้วยการรับจ้างส่งยาเสพติด โดยมีนายทูนเพื่อนที่เรือนจำบางขวางได้แนะนำให้รู้จักกับนายรวย ตนจึงทำงานให้ ซึ่งสาเหตุที่ตัดสินใจทำเนื่องจากมีหนี้สินที่ต้องใช้แทนเพื่อน 3 ล้านบาท เพราะเพื่อนเอายาไปส่งให้แต่กลับไม่ได้เงิน จึงต้องใช้หนี้แทน ซึ่งครั้งนี้ไม่มั่นใจว่าทำแล้วจะได้เงินเท่าใด เพราะยังไม่ได้มีการตกลงเรื่องราคากัน
ส่วนรถยนต์ที่ถูกยึดเป็นของกลางที่พรรคพวกร่วมค้ายาให้เงินมาซื้อเพื่อใช้ส่งยาโดยเฉพาะ ซึ่งของกลางที่ถูกจับกุมครั้งนี้เป็นเพียง 1 ใน 10 ของทั้งหมด ซึ่งได้ไปรับยามาเกือบ 20 กระเป๋า แต่ปล่อยไปหมดเหลือเพียง 2 กระเป๋าเท่านั้น
ส่วนกรณีของนามสกุลที่ว่าเป็นญาติกับนายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์หรือไม่นั้น นายอิทธิพัทธ์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นญาติกัน แต่เพียงนามสกุลเหมือนกันเท่านั้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า-ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหานายอิทธิพัทธ์เพิ่มในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป
วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.9 แถลงผลการจับกุม นายอิทธิพัทธ์ หรือหมี ดำนุ้ย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/10 ถนนจุลจอมเกล้า ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และนายสิทธิศักดิ์ หรือสิทธิ์ แท่นนาค อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 9 ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางยาบ้า 130,000 เม็ด ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม อาวุธปืนขนาด .45 ยี่ห้อโคลท์ 1 กระบอก รถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-6646 นนทบุรี สามารถจับกุมได้ที่หน้าอาคาร 14 สมบัติบุรีคอนโด หมู่ 13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.9 นำกำลังจับกุม นายจารุกิตต์ หรือตู่ เรืองรองหิรัญญา อายุ 32 ปี พร้อมยาบ้า 20,000 เม็ด ยาไอซ์ 100 กรัม ซึ่งขยายผลได้ข้อมูลยาเสพติดว่ามาจากนายหมี โดยพักที่อาคาร 14 สมบัติบุรีคอนโด จึงเข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหา พร้อมเพื่อนเดินมาจากอาคาร ซึ่งในมือมีกระเป๋าแบบมีหูหิ้ว จึงแสดงตัวจับกุมพบยาบ้า 80,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืน ต่อมานำไปตรวจค้นห้องพักเลขที่ 114/182 ภายในสมบัติบุรีคอนโด พบยาบ้าอีก 50,000 เม็ด และยาไอซ์ 2 กิโลกรัม
จากการสอบสวนนายอิทธิพัทธ์สารภาพว่า รับยาเสพติดมาจากนายรวย อยู่ฝั่งด่านท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า โดยมีผู้นำมาส่งให้อีกที ซึ่งก่อนหน้านี้เคยติดคุกคดีฆ่าคนตายที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งต้องโทษ 13 ปี 7 เดือน โดยพ้นโทษมาเมื่อปี 2542 และทำมาหากินด้วยการรับจ้างส่งยาเสพติด โดยมีนายทูนเพื่อนที่เรือนจำบางขวางได้แนะนำให้รู้จักกับนายรวย ตนจึงทำงานให้ ซึ่งสาเหตุที่ตัดสินใจทำเนื่องจากมีหนี้สินที่ต้องใช้แทนเพื่อน 3 ล้านบาท เพราะเพื่อนเอายาไปส่งให้แต่กลับไม่ได้เงิน จึงต้องใช้หนี้แทน ซึ่งครั้งนี้ไม่มั่นใจว่าทำแล้วจะได้เงินเท่าใด เพราะยังไม่ได้มีการตกลงเรื่องราคากัน
ส่วนรถยนต์ที่ถูกยึดเป็นของกลางที่พรรคพวกร่วมค้ายาให้เงินมาซื้อเพื่อใช้ส่งยาโดยเฉพาะ ซึ่งของกลางที่ถูกจับกุมครั้งนี้เป็นเพียง 1 ใน 10 ของทั้งหมด ซึ่งได้ไปรับยามาเกือบ 20 กระเป๋า แต่ปล่อยไปหมดเหลือเพียง 2 กระเป๋าเท่านั้น
ส่วนกรณีของนามสกุลที่ว่าเป็นญาติกับนายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์หรือไม่นั้น นายอิทธิพัทธ์กล่าวว่า ไม่ได้เป็นญาติกัน แต่เพียงนามสกุลเหมือนกันเท่านั้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า-ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหานายอิทธิพัทธ์เพิ่มในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป