กองปราบฯ ตามรวบแก๊งค้ายาเครือข่ายโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว โดยนำกำลังปิดล้อมบ้านร้างในจังหวัดตราดถูกผู้ต้องหากราดยิงเปิดทางหนีจนรถเจ้าหน้าที่พรุนไปเกือบทั้งคัน แต่เจ้าหน้าที่ยิงสวนกลับพร้อมจับได้ 1 ราย อีกรายควบวีออสหลบหนียิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ยิงสวนได้รับบาดเจ็บวิ่งหนีไปในสวนยางทำทีขอน้ำดื่มก่อนใช้อาก้าจี้ชิงรถ จยย.ชาวบ้านหลบหนีไปได้ โดยผู้ต้องหาที่จับได้สารภาพเหตุที่ยิงใส่รถชาวบ้านบนถนน เพราะเพื่อนคู่หูที่หนีไปได้สั่งให้ยิง เนื่องจากเสพยาไอซ์มากจนประสาทหลอน
วันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ณัฐกร ประภายนต์ ผกก.2 บก.ป.พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.กริช วรทัต สว.กก.2 บก.ป.แถลงการจับกุม นายนิรันดร หรือ นิล อุดม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/1 หมู่ 9 ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ปืนยาวไทยประดิษฐ์ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนอาก้า เอ็ม 16 และ .357 จำนวน 1 พันกว่านัด รถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน กข 8126 ตราด 1 คัน รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ญช 3810 กทม.1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์อีกหลายสิบแผ่น โดยจับกุมตัวได้ภายในบ้านร้างไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุยิงอาวุธสงครามใส่รถยนต์ของชาวบ้านขณะกำลังขับอยู่บนถนนสุขุมวิท ระหว่าง จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และรถยนต์เสียหาย รวมทั้งหมด 5 คดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางสายดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐกร นำกำลังเข้าสืบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายนิรันดร ผู้ต้องหามีหมายจับของศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.120 /2555 ลงวันที่ 25 ก.พ.2555 ข้อหามีอาวุธปืนและกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันทั้ง 5 คดี
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป.นำกำลังเข้าปิดล้อม บ้านร้างไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด หลังสืบทราบว่า นายนิรันดร และ นายวิฑูร หรือ ช้าง แจ้งจำรัส อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/45 หมู่ 1 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง หลบหนีมากบดาน ซึ่งเมื่อไปถึงแต่กลับถูกกราดยิงด้วยอาวุธสงคราม เพื่อเปิดทางหนี ซึ่งทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่พรุนไปเกือบทั้งคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยิงสวนเข้าไปในบ้าน พร้อมทั้งจับกุมนายนิรันดร ไว้ได้ ส่วนนายวิฑูร ได้ขับรถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน กข 8126 ตราด หลบหนีไปพร้อมกับกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ แต่ถูกยิงสวนจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายวิฑูร ได้วิ่งหนีไปในสวนยาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมบริเวณดังกล่าวนานหลายชั่วโมง แต่ไม่พบตัว โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า นายวิฑูร ได้ทำทีขอน้ำดื่ม ก่อนใช้อาวุธปืนอาก้าจี้ชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามคลินิกและโรงพยาบาลในจังหวัดตราดและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายเข้ารับการรักษาตัว เนื่องจากถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน นายนิรันดร รับสารภาพว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดหน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่ฐานทัพเรือใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อปลดประจำการก็ไม่รู้จะทำงานอะไรจึงมาเป็นลูกน้อง นายโก๋ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาค้ายาบ้ารายใหญ่ในภาคตะวันออก ซึ่งเมื่อนายโก๋ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ตนจึงไปเป็นลูกน้องของ นายวิฑูร โดยทำหน้าที่ส่งยาบ้าให้ลูกค้า ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 4 เดือน ส่วนสาเหตุที่ยิงใส่รถชาวบ้านขณะที่นั่งรถไปส่งยาบ้ากับนายวิฑูร ซึ่งนายวิฑูรเป็นคนขับ ตนนั่งด้านหลัง ซึ่งเมื่อเห็นรถชาวบ้านขับตามมา นายวิฑูร ได้สั่งให้ตนใช้ปืนเอ็ม 16 ที่พกมาในรถยิงใส่ เนื่องจากนายวิฑูรเสพยาไอซ์จนเกิดอาการทางประสาทหวาดระแวงว่ารถชาวบ้านที่ขับตามมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงใส่ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายวิฑูร ได้ก่อเหตุขับรถแหกด่านตรวจก่อนยิงปืนอาก้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองระยอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุเกิดเมื่อปี 2554 นอกจากนี้ หลังจากที่ นายโก๋ เอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ภาคตะวันนออกถูกจับกุม นายวิฑูร ก็ได้ขึ้นมาเป็นเอเยนต์รายใหญ่แทนนายโก๋ นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่าแก๊งนายวิฑูร กับแก๊งโจ๊ก จิ๊บ ไผ่เขียว แก๊งยาบ้าใน จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นเครือข่ายเดียวกันและมีพฤติกรรมชอบยิงรถชาวบ้านบนท้องถนนเหมือนกันอีกด้วย
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขัดขวางเจ้าพนักงาน มีอาวุธปืนและกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะและร่วมกันครอบครองยาไอซ์ ก่อนส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พ.ต.อ.ณัฐกร ประภายนต์ ผกก.2 บก.ป.พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.กริช วรทัต สว.กก.2 บก.ป.แถลงการจับกุม นายนิรันดร หรือ นิล อุดม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/1 หมู่ 9 ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมของกลาง อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ปืนยาวไทยประดิษฐ์ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนอาก้า เอ็ม 16 และ .357 จำนวน 1 พันกว่านัด รถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน กข 8126 ตราด 1 คัน รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ญช 3810 กทม.1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์อีกหลายสิบแผ่น โดยจับกุมตัวได้ภายในบ้านร้างไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุยิงอาวุธสงครามใส่รถยนต์ของชาวบ้านขณะกำลังขับอยู่บนถนนสุขุมวิท ระหว่าง จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และรถยนต์เสียหาย รวมทั้งหมด 5 คดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางสายดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐกร นำกำลังเข้าสืบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายนิรันดร ผู้ต้องหามีหมายจับของศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.120 /2555 ลงวันที่ 25 ก.พ.2555 ข้อหามีอาวุธปืนและกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันทั้ง 5 คดี
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป.นำกำลังเข้าปิดล้อม บ้านร้างไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด หลังสืบทราบว่า นายนิรันดร และ นายวิฑูร หรือ ช้าง แจ้งจำรัส อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/45 หมู่ 1 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง หลบหนีมากบดาน ซึ่งเมื่อไปถึงแต่กลับถูกกราดยิงด้วยอาวุธสงคราม เพื่อเปิดทางหนี ซึ่งทำให้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่พรุนไปเกือบทั้งคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยิงสวนเข้าไปในบ้าน พร้อมทั้งจับกุมนายนิรันดร ไว้ได้ ส่วนนายวิฑูร ได้ขับรถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน กข 8126 ตราด หลบหนีไปพร้อมกับกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ แต่ถูกยิงสวนจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายวิฑูร ได้วิ่งหนีไปในสวนยาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมบริเวณดังกล่าวนานหลายชั่วโมง แต่ไม่พบตัว โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า นายวิฑูร ได้ทำทีขอน้ำดื่ม ก่อนใช้อาวุธปืนอาก้าจี้ชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามคลินิกและโรงพยาบาลในจังหวัดตราดและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายเข้ารับการรักษาตัว เนื่องจากถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวน นายนิรันดร รับสารภาพว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดหน่วยนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่ฐานทัพเรือใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อปลดประจำการก็ไม่รู้จะทำงานอะไรจึงมาเป็นลูกน้อง นายโก๋ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาค้ายาบ้ารายใหญ่ในภาคตะวันออก ซึ่งเมื่อนายโก๋ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ตนจึงไปเป็นลูกน้องของ นายวิฑูร โดยทำหน้าที่ส่งยาบ้าให้ลูกค้า ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 4 เดือน ส่วนสาเหตุที่ยิงใส่รถชาวบ้านขณะที่นั่งรถไปส่งยาบ้ากับนายวิฑูร ซึ่งนายวิฑูรเป็นคนขับ ตนนั่งด้านหลัง ซึ่งเมื่อเห็นรถชาวบ้านขับตามมา นายวิฑูร ได้สั่งให้ตนใช้ปืนเอ็ม 16 ที่พกมาในรถยิงใส่ เนื่องจากนายวิฑูรเสพยาไอซ์จนเกิดอาการทางประสาทหวาดระแวงว่ารถชาวบ้านที่ขับตามมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงใส่ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายวิฑูร ได้ก่อเหตุขับรถแหกด่านตรวจก่อนยิงปืนอาก้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองระยอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเหตุเกิดเมื่อปี 2554 นอกจากนี้ หลังจากที่ นายโก๋ เอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ภาคตะวันนออกถูกจับกุม นายวิฑูร ก็ได้ขึ้นมาเป็นเอเยนต์รายใหญ่แทนนายโก๋ นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่าแก๊งนายวิฑูร กับแก๊งโจ๊ก จิ๊บ ไผ่เขียว แก๊งยาบ้าใน จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นเครือข่ายเดียวกันและมีพฤติกรรมชอบยิงรถชาวบ้านบนท้องถนนเหมือนกันอีกด้วย
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขัดขวางเจ้าพนักงาน มีอาวุธปืนและกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะและร่วมกันครอบครองยาไอซ์ ก่อนส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป