ตำรวจ ปคบ.ตามรวบแก๊งปล่อยเงินกู้ทวงหนี้ดอกเบี้ยโหดซ้ำเติมผู้ประสบภัยน้ำท่วม สารภาพรับจ้างจากนายทุนได้ค่าตอบแทน 5 พันต่อเดือน บวกส่วนแบ่งดอกเบี้ยที่ตามเก็บได้ โดยจะมีเงินหมุนเวียน 10 ล้านบาทต่อเดือนปล่อยให้พ่อค้า-แม่ค้าและลูกค้าเงินกู้ที่ถูกน้ำท่วมนำไปซ่อมแซมบ้านกว่า 100 ราย แล้วตามเก็บดอกเบี้ยรายวัน ขณะที่ตำรวจเร่งขยายผลตามจับกลุ่มนายทุนมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ ผกก.2 บก.ปคบ. แถลงการจับกุม นายฉัตรรัตน์ โอภาชาติ อายุ 25 ปี และพวกรวม 12 ราย พร้อมของกลางนามบัตร 4,543 ใบ สมุดบัญชีเรียกเก็บเงิน 1,274 เล่ม หลักฐานในการกู้ยืมเงิน 12 ชุด เครื่องคิดเลข 2 เครื่อง จักรยานยนต์ 7 คัน และหมวกกันน็อก 14 ใบ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 40/2278 และเลขที่ 40/2280 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ซอย 8/8 ถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.นิพนธ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบใน จ.นนทบุรี โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน นอกจากนี้ยังต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชน และเซ็นสัญญากู้เงินที่ไม่มีการระบุรายละเอียดยอดเงิน และดอกเบี้ยเอาไว้ หากลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายจะถูกข่มขู่และด่าทอทำให้เกิดความอับอาย ซึ่งผู้ที่กู้เงินส่วนใหญ่เป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วมกู้เงินดังกล่าวมาซ่อมแซมบ้าน จึงรวมตัวกันมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ปคบ.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเปิดบ้านเช่าอยู่ด้วยกัน ก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์ออกตระเวนเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกหนี้ตามที่ได้รับแจ้ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายทุนให้ออกหาลูกค้าเงินกู้และเก็บดอกเบี้ยรายวัน โดยจะแบ่งหน้าที่กันตั้งแต่ออกไปแจกใบปลิว นามบัตรพร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อหาลูกค้าเงินกู้ อีกส่วนหนึ่งมีหน้าที่จัดทำเอกสารและรับเงินจากนายทุนซึ่งมีเงินหมุนเวียนประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนั้นจะเป็นผู้รับหน้าที่ขับจักรยานยนต์ออกไปเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเพิ่งเริ่มทำในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ สำหรับลูกค้าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าและบุคคลทั่วไป ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 100 กว่าราย ซึ่งพวกตนจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท รวมทั้งส่วนแบ่งจากดอกเบี้ยที่เก็บมาได้จากลูกหนี้
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันปล่อยให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และขยายผลจับกุมไปยังกลุ่มนายทุนเงินกู้รายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ถาวร ดุลยวิทย์ ผกก.2 บก.ปคบ. แถลงการจับกุม นายฉัตรรัตน์ โอภาชาติ อายุ 25 ปี และพวกรวม 12 ราย พร้อมของกลางนามบัตร 4,543 ใบ สมุดบัญชีเรียกเก็บเงิน 1,274 เล่ม หลักฐานในการกู้ยืมเงิน 12 ชุด เครื่องคิดเลข 2 เครื่อง จักรยานยนต์ 7 คัน และหมวกกันน็อก 14 ใบ โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 40/2278 และเลขที่ 40/2280 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 ซอย 8/8 ถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.นิพนธ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบใน จ.นนทบุรี โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อวัน นอกจากนี้ยังต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชน และเซ็นสัญญากู้เงินที่ไม่มีการระบุรายละเอียดยอดเงิน และดอกเบี้ยเอาไว้ หากลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายจะถูกข่มขู่และด่าทอทำให้เกิดความอับอาย ซึ่งผู้ที่กู้เงินส่วนใหญ่เป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วมกู้เงินดังกล่าวมาซ่อมแซมบ้าน จึงรวมตัวกันมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ปคบ.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเปิดบ้านเช่าอยู่ด้วยกัน ก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์ออกตระเวนเก็บดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกหนี้ตามที่ได้รับแจ้ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายทุนให้ออกหาลูกค้าเงินกู้และเก็บดอกเบี้ยรายวัน โดยจะแบ่งหน้าที่กันตั้งแต่ออกไปแจกใบปลิว นามบัตรพร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อหาลูกค้าเงินกู้ อีกส่วนหนึ่งมีหน้าที่จัดทำเอกสารและรับเงินจากนายทุนซึ่งมีเงินหมุนเวียนประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนั้นจะเป็นผู้รับหน้าที่ขับจักรยานยนต์ออกไปเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเพิ่งเริ่มทำในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ สำหรับลูกค้าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าและบุคคลทั่วไป ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 100 กว่าราย ซึ่งพวกตนจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท รวมทั้งส่วนแบ่งจากดอกเบี้ยที่เก็บมาได้จากลูกหนี้
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันปล่อยให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และขยายผลจับกุมไปยังกลุ่มนายทุนเงินกู้รายนี้มาดำเนินคดีต่อไป