ศาลสั่งประหารชีวิตสองสามีภรรยาชาวอิหร่าน ขนยาไอซ์น้ำหนัก 2,870 กรัม ซุกในกระเป๋าเดินทาง ผ่านเข้าไทยเตรียมนำไปส่งต่อที่มาเลเซีย ทั้งสองรับสารภาพศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดำ อย.5162/54 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้อง นางซารา ฟารามาร์ซี่ (MRS.SARA FARAMARZI) อายุ 26 ปี และนายอลิเรซา เรซาอี (MR.ALIREZA REZAEI) อายุ 24 ปี สองสามีภรรยาชาวอิหร่าน เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมกันมีเยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้าราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 28 ก.ค.54 ระบุความผิดสรุปว่า
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.54 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบินสุวรรณภูมิ รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีสามีภรรยา ชาวตะวันออกกลางลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยสายการบินเอติฮัดแอร์เวย์ จากเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ก่อนนำกำลังไปดักรอที่สายพานรับกระเป๋า พบจำเลยทั้งสอง จึงขอตรวจดูกระเป๋าเดินทางชนิดลาก 2 ใบ บริเวณด้านข้างมีช่องลับพบฝุ่นสีข่าวติดอยู่ตามขอบโครงกระเป๋า เมื่อนำเลื่อยมาตัด พบยาไอซ์ 4 ถุง หนัก 2,870 กรัม ซุกซ่อนอยู่ ยึดเป็นของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ดำเนินคดี
จำเลยให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากชายชาวอิหร่านให้นำกระเป๋าเดินทาง 2 ใบที่ซุกซ่อนยาเสพติดไปส่งให้ชายชาวมาเลเซียที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เบิกความยืนยันถึงพฤติการณ์ต่างๆ พร้อมรายละเอียดเป็นลำดับขั้นตอนสอดคล้องกันโดยไม่ปรากฏข้อพิรุธ ทั้งไม่เคยรู้จักหรือมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน พยานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังน่าเชื่อถือ
พิพากษาว่าจำเลย กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วางโทษประหารชีวิต คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยทั้งสองไว้ตลอดชีวิต พร้อมให้ริบของกลาง